เปิด Timeline ลงเข็ม "ฉีดวัคซีนไฟเซอร์" นักเรียน คาด พ.ย.เปิดเทอมได้
14 ก.ย. 2564
"กระทรวงศึกษาธิการ" เผย ไทมไลน์ "ฉีดวัคซีนไฟเซอร์" เด็กนักเรียน" คาด เดือนพฤศจิกายน สามารถเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ได้
หลังจากที่ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และผู้บริหารระดับสูงของ ศธ.ร่วมแถลงข่าว “เตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 สถานศึกษาปลอดภัย เด็กได้รับวัคซีนถ้วนหน้า”
ล่าสุด (14 ก.ย.64) ทางกระทรวงศึกษาธิการได้เผยไทม์ไลน์ในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้เด็กนักเรียนอายุ 12-17 ปี ดังนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สถานเสาวภา "สภากาชาดไทย" แจ้งวันรับบริการวัคซีนซิโนฟาร์ม แก่ผู้ที่จองทัน
- "จองวัคซีนซิโนฟาร์มฟรี" เทศบาลนครหาดใหญ่เปิดลงทะเบียนรอบเก็บตก เช็คเลย
- รพ.ภูมิพล เปิด "ฉีดวัคซีนโควิด" ให้กลุ่มเสี่ยงถึง 17 กันยายน นี้
- "บุคลากรทางการแพทย์" ไม่ยอมฉีดวัคซีน โควิด-19 ถูกสั่งพักงาน - ไม่ได้ค่าจ้าง
- "ฉีดวัคซีนโควิด" เช็กที่นี่ เกณฑ์จ่ายเงินเยียวยา 3 ระดับอาการไม่พึงประสงค์
- 10-17 ก.ย. 64 โรงเรียน/สถานศึกษา จัดเตรียมรายชื่อและจำนวนนักเรียน
- ศธ. และ สธ. จัดประชุม กับ ศธจ./สพม./อศจ. และผู้บริหารโรงเรียน/ สถานศึกษาซักซ้อมความเข้าใจการฉีดวัคซีน และการทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง
- 17-22 ก.ย.64 โรงเรียน/สถานศึกษา จัดประชุมทำความเข้าใจ ให้ข้อมูลกับผู้ปกครอง ในการฉีดวัคซีน เด็ก12-18 ปี
- 2-24 ก.ย. 64 โรงเรียน/สถานศึกษา เชิญ ผู้ปกครองลงนาม แจ้งความประสงค์ (ยินยอม) ให้นักเรียนเข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์
- โรงเรียน/สถานศึกษา นำส่งบัญชีรายชื่อนักเรียน ที่ประสงค์จะรับวัคซีนไฟเซอร์แก่ ผอ.สพม./อศจ. แล้วนำส่ง ศธจ.
- 26 ก.ย.64 ศธจ./ผอ.สพม./อศจ./ ผู้แทนหน่วยงานการศึกษาในจังหวัดประชุมสรุปจำนวนและรายชื่อนักเรียนเพื่อนำส่ง ศธจ.
- 28-30 ก.ย.64 ศธจ.วางแผนการรับวัคซีน และกำหนดการฉีดวัคซีนรายโรงเรียน
- 1 ต.ค. 64 โรงเรียน/สถานศึกษา รับทราบกำหนดการฉีดวัคซีนและสถานที่
- 4 ต.ค.64 เริ่มการฉีดวัคซีนในนักเรียน
โดยจะเริ่มฉีดให้แก่นักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จำนวน 29 จังหวัดก่อน พร้อมตั้งเป้าหมายให้นักเรียน นักศึกษาทุกคน ได้รับวัคซีน Pfizer เข็มที่ 1 อย่างครบถ้วน
ส่วนการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 จะพิจารณาแยกตามข้อกำหนด มาตรการ และสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่อีกที
ที่มา กระทรวงศึกษาธิการ