รวบแล้ว "ม็อบทะลุแก๊ส" เผาซุ้มการทางพิเศษ ตำรวจจ่อเชือด ม.112
จับแล้ว "ม็อบทะลุแก๊ส" มือเผาซุ้มการทางพิเศษ พบยังเป็นเยาวชนวัยใส เตรียมเรียกผู้ปกครอง สอบพฤติกรรม พร้อมเตือนสื่อให้ระวังถูกคุกคาม ขอให้อยู่ใกล้ตำรวจเป็นหลัก
กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) วันที่ 15 กันยายน 2564 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวถึงกรณีการทางพิเศษแจ้งความเอาผิดกับผู้ทำลายทรัพย์สิน และเผาซุ้มของการทางพิเศษ โดยระบุว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมตัวผู้กระทำความผิดตามกฎหมายแล้ว 1 ราย "ม็อบทะลุแก๊ส" โดยพบว่าผู้ต้องหายังเป็นเยาวชน ดังนั้น จึงต้องให้สหวิชาชีพเข้ามาร่วมสอบปากคำ รวมถึงต้องเชิญตัวผู้ปกครองมารวมหารือด้วย ส่วนการดำเนินคดี ม.112 หรือไม่นั้น เรื่องนี้ต้องดูที่พยานหลักฐาน ว่าเข้าข่ายกระทำผิดหรือไม่
สำหรับเรื่องการคุกคามทำร้ายสื่อมวลชนของ "ม็อบทะลุแก๊ส" นั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ขอให้สื่ออยู่ใกล้ตำรวจเป็นหลัก เพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะสื่อมวลชนที่ถูกผู้ไม่หวังดีประกาศว่าจะทำร้าย ส่วนจะเป็นการล่าค่าหัวหรือไม่ เมื่อผู้สื่อข่าวบางสำนัก ถูกลูกแก้วยิง และเหตุการณ์ในลักษณะนี้จะจบลงหรือไม่อย่างไรนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีการสั่งการให้บังคับใช้กฎหมายกับการรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ต้องทบทวนหาทางหยุดยั้งกรณีดังกล่าว
ส่วนกรณีการเคหะแห่งชาติ ติดตั้งเครื่องป้องกัน "ม็อบทะลุแก๊ส" ที่แฟลตดินแดงนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม คาดว่าน่าจะมีความคืบหน้าวันนี้ และจากเหตุการณ์ภาพตัดต่อ ตำรวจ คฝ.ใช้อาวุธปืนยิงกระสุนยางจากสะพานลอยนั้น พบว่า มีภาพคลิประหว่างเกิดเหตุ มีการยั่วยุให้ตำรวจทำเสียหาย มีการตัดทอนเพิ่มข้อความบิดเบือนให้เข้าใจผิด ในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างตรวจสอบผู้นำเข้า-ผู้ส่งต่อ ถ้ามีเจตนาให้เกิดความเสียในภาพรวม ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
“นอกจากนี้ยังพบว่า กลุ่มผู้ชุมนุม "ม็อบทะลุแก๊ส" ทำร้ายกันเอง ซึ่งพบมาโดยตลอด รวมถึงการชุมนุมอื่นๆ ที่ผ่านมา เกิดจากกลุ่มผู้ชุมนุม และกลุ่มการ์ด ถือเป็นอันตรายต่อคนโดยรอบ” พล.ต.ต.ปิยะ ระบุ
ส่วนสาเหตุที่จะต้องใช้เวลาลากยาวการปฏิบัติหน้าที่ถึงเวลา 03.00 น.นั้น พล.ต.ต.ปิยะ บอกว่า การบังคับใช้กฎหมายสามารถบังคับใช้ได้ทันทีแต่อาจทำให้ประชาชนเดือดร้อน อย่างกรณีกลุ่มผู้ชุมนุม "ม็อบทะลุแก๊ส" หลบหนีไปยังที่พักอาศัยบริเวณแฟลตดินแดง จึงยืดเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ออกไป เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัย และเดือดร้อนน้อยที่สุด
“ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ที่ช่วยเหลือ หรือสนับสนุนให้เกิดการชุมนุม "ม็อบทะลุแก๊ส" นั้น ผู้พักอาศัยบริเวณนั้น ที่ให้การช่วยเหลือมีส่วนในการกระทำผิดมากน้อยแค่ไหน ต้องนำมาพิจารณา ในขณะที่เรื่องการเยียวยา ฟ้องเรียกค่าเสียหาย ยกตัวอย่างปิดล้อมสนาม หรือสถานที่ราชการเคยมีการฟ้องร้องศาลแพ่ง มีคำพิพากษาชดใช้ค่าเสียหายมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งถ้าหากตรวจสอบพบว่า ความเสียหายจากตำรวจก็พร้อมดูแลให้"
นอกจากนี้การปล่อยตัว 5 แกนนำกลุ่มชุมนุม จะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ และเรื่องนี้เตรียมการไว้อย่างไร พล.ต.ต.ปิยะ กล่สาวว่า เรื่องนี้ตำรวจมีการเตรียมความพร้อมปฏิบัติหน้าที่ทุกสถานการณ์
“ส่วนกรณีถูกทำร้ายแขนหัก สน.ดินแดง ไม่รับแจ้งความนั้น กรณีลักษณะดังกล่าว มีคนถูกทำร้ายเป็นจำนวนมาก อาจจะมีการนัดหมายตรวจร่างกายก่อน คาดว่าจะมีการแจ้งความกับกลุ่มผู้ชุมนุมอีกเป็นจำนวนมาก อย่างเช่นกรณี รถเปอร์เช่ ถูกตะปูเรือใบเมื่อคืนที่ผ่านมา มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท”