ข่าว

สาวเหยื่อโดน "รุมโทรม" ร้อง ยธ. ทวงสิทธิ์เยียวยาหลังกลายเป็นผู้ร่วมทำผิด

สาวเหยื่อโดน "รุมโทรม" ร้อง ยธ. ทวงสิทธิ์เยียวยาหลังกลายเป็นผู้ร่วมทำผิด

15 ก.ย. 2564

สาวเหยื่อโดน "รุมโทรม" ร้อง ก. ยุติธรรม หลังตำรวจทำสำนวนเป็นผู้ร่วมก่อเหตุ ทำให้เสียสิทธิ์ในการได้รับการเยียวยา ด้านเลขาฯ ยุติธรรม โยน ผบช.ภ.1 ตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริง

15 ก.ย.2564  จากกรณีเมื่อช่วงปลายปี 63 มีหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งเป็นนักศึกษา มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ใช้พื้นที่การชุมนุมทางการเมืองลบริเวณแยกลาดพร้าว  เรียกร้องขอความเป็นธรรม ด้วยการถือป้ายเขียนข้อความระบุว่า "ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว 5 คืน 5 วัน รุมโทรม 7 ต่อ 1"

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ได้ติดตามจับกุม  ผู้ก่อเหตุได้ทั้งครบทั้ง 7 ราย โดยทั้งหมดถูกส่งฟ้องศาลในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะในการโทรมหญิง  

 

สาวเหยื่อรุมโทรมร้องทวงสิทธิ์

 


 

อ่านข่าวที่น่าสนใจ

 

ล่าสุด วันนี้  น.ส.เอ (ผู้เสียหาย)   เดินทางเข้าร้องทุกข์กับกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความช่วยเหลือ  หลังจากที่เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกรวย เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2563 ว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งมีบุคคลหลายคน ร่วมกันกระทำความผิด แต่พนักงานสอบสวนลงในสำนวนว่า ผู้เสียหายอาจจะร่วมกระทำความผิด จึงทำให้ตนเองเสียสิทธิ์ในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
  

 

เหยื่อรุมโทรม ร้องทวงสิทธิ์เยียวยา


ด้าน ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นตัวแทน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับเรื่องจาก น.ส.เอ เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้เร่งช่วยเหลือผู้เสียหาย  

 

เบื้องต้นได้สอบถามไปยังตำรวจ สภ.บางกรวย ทราบว่าคดีดังกล่าว เกิดการกระทำผิดใน 2 พื้นที่เกิดเหตุ คือ จ.นนทบุรี และ จ.เพชรบุรี ต่อเนื่องกัน และพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีแล้ว แต่ประเด็นที่มีข้อสงสัย เพราะพนักงานสอบสวนมีการลงในสำนวนกว่า ผู้เสียหายอาจจะมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ซึ่งตนมองว่า พนักงานสอบสวนไม่มีสิทธิ์จะออกความเห็น จึงอยากฝากไปยัง ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 1 ว่า ให้ตั้งคณะกรรมการสอบเรื่องดังกล่าวและทำหนังสือชี้แจงมายังกระทรวงยุติธรรม ว่าทำไมพนักงานสอบสวนจึงมีการระบุข้อความเช่นนั้นลงในสำนวน เพราะอาจจะทำให้นางสาวเอ เสียสิทธิในการรับค่าสินไหมทดแทน

 

เหยื่อรุมโทรม ร้องทวงสิทธิ์ เยียวยา

 

นอกจากนี้ ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต  ได้ให้คำแนะนำการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม เกี่ยวกับการเรียกค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญา และการฟ้องคดีแพ่ง รวมถึงการขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม และสิทธิต่างๆ ให้ผู้เสียหายได้ทราบ