"กรมอนามัย" พิสูจน์สาเหตุ "หญิงท้องฉีดวัคซีนไฟเซอร์" เด็กในครรภ์เสียชีวิต
โฆษกกรมอนามัย เผย เร่งตรวจสอบกรณีหญิงตั้งครรภ์ ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ แล้วเด็กในครรภ์เสียชีวิต ว่า เกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่
จากกรณีมีหญิงตั้งครรภ์ 7 เดือน หลังได้รับการฉีด วัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่ 2 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่าลูกในท้องเสียชีวิต ทำให้ครอบครัวรู้สึกติดใจสาเหตุว่าเป็นผลมาจากการฉีดวัคซีนหรือไม่
อ่านข่าวที่น่าสนใจ
- เปิดประวัติไอ้ดิว ฆาตกร "ฆ่าเปลือย" สาวร้านเกม สุดโหด เคยทำร้ายแม่บุญธรรม
- "เราเที่ยวด้วยกันเฟส3" เปิดลงทะเบียน 24 ก.ย. เริ่มใช้ 15 ต.ค.นี้
- เช็ควิธีลงทะเบียนรับชุดตรวจ "ATK" ผ่าน "แอปฯเป๋าตัง" ด่วน ดีเดย์แจก วันนี้
- "ปะทะเดือด" แก็งค้ายาบ้า ยึดของกลาง 5 ล้านเม็ด
- "ดีเอสไอ" ลุยสงขลาสอบ 3 บริษัท "เหมืองแร่" หลังมีผู้ร้องเรียนลอบขุดภูเขา
นายแพทย์ อกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ และ โฆษกกรมอนามัย อธิบายว่า ข้อมูลสตรีตั้งครรภ์จากทั่วโลก พบจะมีผลข้างเคียงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ประมาณ 3 ราย จากการฉีดวัคซีนทั้งหมด 10,000 ราย ขณะที่ประเทศไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ไปแล้วกว่า 80,000 ราย พบมีผลข้างเคียงจากการรับวัคซีน ประมาณ 5 ราย ถือมีความเสี่ยงต่ำมาก เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพและประโยชน์ของวัคซีน
ส่วนกรณีที่พบหญิงตั้งครรภ์ได้รับวัคซีนไฟเซอร์แล้วเด็กเสียชีวิตในครรภ์ นพ.เอกชัย ระบุว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด ซึ่งเบื้องต้น ตามหลัก สูติกรรม ซึ่งโดยปกติ ถ้าเด็กเสียชีวิตในครรภ์ จะไม่ใช้วิธีผ่านำเด็กออก แต่จะใช้วิธีเร่งคลอดให้เหมือนคลอดธรรมชาติเพื่อความปลอดภัยของแม่ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการตรวจพอสูจน์ว่าการเสียชีวิตของทารกในครรภ์เกี่ยวข้องการได้รับวัคซีนหรือไม่
ทั้งนี้ จากข้อมูลระบุว่าตามปกติในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์จะมีการพบเด็กเสียชีวิตในครรภ์โดยไม่ทราบสาเหตุประมาณ 3-5 ต่อ หญิงตั้งครรภ์ 1,000 พันคน