ข่าว

"อสส." เปิดใจเหตุลาออก เบื่อทำงานมานาน แค่อยากพักผ่อน ไม่มีอะไรแอบแฝง

"อสส." เปิดใจเหตุลาออก เบื่อทำงานมานาน แค่อยากพักผ่อน ไม่มีอะไรแอบแฝง

17 ก.ย. 2564

"อัยการสูงสุด" เปิดใจเบื่อทำงานมานาน อยากพักผ่อน ไม่มีประเด็นอะไรแอบแฝงทั้งนั้นสู้ความจริงทุกเรื่อง เลยแจ้งความประสงค์ ไม่ขอเป็นอัยการอาวุโสเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน นำเข้าที่ประชุมก.อ. 21 กันยายนนี้ ส่วนเนตร ไม่ขอเป็นอัยการอาวุโส ยังไม่เห็นเรื่อง

 

 

นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ "อัยการสูงสุด" (อสส.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวการลาออกจากการเป็นอัยการอาวุโสว่า  เรื่องการเป็นอัยการอาวุโส ของอัยการทุกคนเมื่ออายุครบ 65 ปี ก็จะเสนอให้เป็นอัยการอาวุโสทุกคนโดยอัตโนมัติ 

 

 

สำหรับผมคิดว่า ผมทำงานมา40ปี แล้ว รู้สึกเบื่อ รู้สึกพอแล้ว อยากจะพักผ่อนเลยแจ้งความประสงค์ ไม่ขอเป็นอัยการอาวุโสมาราว 2 สัปดาห์ก่อน ก็ต้องมีการนำเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการอัยการ(ก.อ.) เพื่อพิจารณาวันที่ 21 กันยายนนี้

 

 

"ไม่มีประเด็นอะไรแอบแฝงทั้งสิ้น ผมสู้กับความจริงทุกเรื่อง ทำงานมานานพอแล้ว ให้คนอื่นมารับหน้าที่แทนบ้าง  ส่วนจะไปทำงานด้านอื่นๆหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่คิด ขอพักผ่อนก่อน " อสส.กล่าว

 

ส่วนเรื่องที่นายเนตร นาคสุข  อดีตรองอัยการสูงสุด มีหนังสือแจ้งความประสงค์ไม่ขอเป็นอัยการอาวุโสนั้น  ตอนนี้ตนยังไม่เห็นเรื่อง ความจริงนายเนตร เป็นอาวุโส นั้น เป็นตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ติดเรื่องการโดนสอบวินัย เลยยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ

 


 

 

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง

 

 

 

 

 

 

 

ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่าได้ตรวจสอบแล้วเป็นเรื่องจริง โดย"อัยการสูงสุด"ได้ยื่นใบลาออกเพื่อมีความประสงค์เป็นข้าราชการบำนาญ

 

 

ทั้งนี้เป็นไปตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการอัยการปี 2553 มาตรา 58 วรรคท้าย ระบุว่า กรณี"อัยการสูงสุด"ประสงค์จะลาออกจากราชการให้ยื่นต่อคณะกรรมการอัยการพิจารณา โดยให้ประธานคณะกรรมการอัยการ (นายพชร ยุติธรรมดำรง) นำเข้าที่ประชุม ซึ่งผู้ที่จะอนุมัติคือคณะกรรมการอัยการ ดังนั้นในวันที่ 21 กันยายน64 นี้ จะมีวาระเรื่องนี้ ผลจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับคณะกรรมการอัยการ 

 

 

นายประยุทธ กล่าวว่า การลาออกของพนักงานอัยการมี บัญญัติไว้ในมาตรา 58 กล่าวคือกรณีพนักงานอัยการตำแหน่งอื่นๆที่ไม่ใช่อัยการสูงสุดถ้ามีความประสงค์จะลาออก จากราชการก็ให้ยื่นใบลาออกต่อผู้บังคับบัญชาเหนือตนหนึ่งชั้น

 

 

และให้"อัยการสูงสุด"เท่านั้นเป็นผู้พิจารณาอนุมัติแต่ในมาตรา 58 วรรค 3 ให้อำนาจอัยการสูงสุดยับยั้งได้ 3 เดือน นับแต่วันยื่นลาออกถ้า"อัยการสูงสุด"เห็นว่าเพื่อประโยชน์ของราชการก็มีอำนาจยับยั้งได้ดังกล่าว ส่วนที่ มีประเด็นข่าวว่าท่านลาออกเพื่อเลี่ยงการถูกตรวจสอบต่างๆนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีประเด็นเรื่องนี้อย่างแน่นอน 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ มีข่าวการจะให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบการทำงานของนายวงศ์สกุล "อสส." ในหลายเรื่อง อาทิ คดีบอสกระทิงแดงเป็นต้น

 

สำหรับนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ เกิดเมื่อวันที่  3 พฤศจิกายน 2498 ปัจจุบัน อายุ 66 ปี

 

 

เป็นอดีตอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ อดีตอธิบดี สำนักงานคดีปราบปรามทุจริต อดีตรองอธิบดีอัยการ สำนักงานสอบสวน อดีตรองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ

 

 

จบการศึกษา นิติศาสตร์บัณฑิต จาก มหาวิทยาลัยรามคำแหง เนติบัณฑิต จาก เนติบัณฑิตยสภา รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต จาก สถาบันพัฒนบัณฑิตบริหารศาสตร์

 

 

นับเป็นอัยการสูงสุดคนแรกที่จบนิติศาสตร์บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขานิติศาสตร์ จาก มหาวิทยาลัยรามคำแหง