ดีใจ..พริก "แจ่วบอง" สมุนไพรไทย บินลัดฟ้า ขายตลาดยุโรป
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านทรัพย์ไพรวัลย์ รวมกลุ่มทำน้ำพริกสมุนไพร แจ่วบอง น้ำพริกแกงเผ็ด รสเด็ด ส่งบินลัดฟ้าเปิดตลาดขายต่างประเทศ ผลตอบรับดีออเดอร์ล้นมือ อยากขยายกำลังการผลิต วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยแนะนำช่องทางสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน อย่างยั่งยืน
วันนี้ผู้สื่อข่าวจังหวัดพิษณุโลก พาชิมเมนู น้ำพริกสมุนไพร แจ่วบอง น้ำพริกแกงเผ็ด เมนูทำเงินของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านทรัพย์ไพรวัลย์ ตั้งอยู่ 467 ม.7 (บ้านทรัพย์ไพรวัลย์) ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก และพูดคุยกับ นางวาสนา เพ็งไทย อายุ 52 ปี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านทรัพย์ไพรวัลย์ ถึงที่มาของน้ำพริกโกอินเตอร์ นางวาสนา บอกว่า เดิมตนเองและสามี ใช้ชีวิตอยู่ประเทศเยอรมนี มีอาชีพเปิดร้านอาหารไทย จนช่วงเดือนกันยายน 2562 เกิดโควิด-19 ระบาดไปทั่วประเทศ ประกอบกับสามีเกษียณอายุแล้ว จึงตัดสินใจบินกลับมาใช้ชีวิตบั้นปลาย ที่ประเทศไทย โดยยังคงมีน้องสาว และญาติ อยู่ที่เยอรมนี ตนเองมักจะตำน้ำพริกส่งไปให้รับประทานบ่อยๆ ปรากฏว่าน้องสาวลองแบ่งขายให้คนกับไทย และชาวต่างชาติที่เยอรมนี กลับมีเสียงตอบรับที่ดี ตนเองจึงทำน้ำพริกส่งขายไปต่างประเทศตั้งแต่นั้นมา ภายหลังยอดสั่งซื้อเพิ่ม ทำงานคนเดียวไม่ไหว จึงได้มาร่วมกลุ่มกับวิสาหกิจชุมชนบ้านทรัพย์ไพรวัลย์ มีสมาชิกอยู่ประมาณ 14 คน และเริ่มทำเมนูน้ำพริกส่งออก มีเมนู น้ำพริกสมุนไพร แจ่วบอง และน้ำพริกแกงเผ็ด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เริ่มแล้ว บุญข้าวเม่า ปิดทองหลวงพ่อปั้น "เทศกาลบุญสารทเดือนสิบ"
- เห็ดป่าหน้าฝน "มาแล้ว" แพทย์เตือนให้เลือกกินจะได้ไม่เป็นอันตราย
- "ดารามาแรง" ดาวเด่นดวงใหม่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว
- "แมคคาเดเมีย" พืชเศรษฐกิจทางเลือกสร้างรายได้อย่างดี
- มารู้จักอาชีพ "นักล่าต้นสาคู" ขายได้ต้นละ 1,600 บาท
ต่อเดือนทางกลุ่มสามารถผลิตน้ำพริกส่งไปประเทศเยอรมนีได้เพียง 100 กิโลกรัม โดยมีน้องสาวเป็นตัวแทนขายที่นั่น จดทะเบียนการค้าในยุโรป และตอนนี้มีความต้องการน้ำพริกเป็นจำนวนมาก แต่ทางกลุ่มติดปัญหาตรงที่ยังไม่ได้จดทะเบียน อย. อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงมาช่วยตรวจสอบ แนะนำขั้นตอนทุกอย่างให้ถูกต้องเพื่อที่จะสามารถพัฒนาน้ำพริกของทางกลุ่มเป็นสินค้า OTOP และสามารถส่งน้ำพริกเป็นสินค้าส่งออกได้ รวมไปถึงการเพิ่มกำลังการผลิตด้วยเครื่องจักร หรือเครื่องทุ่นแรง เพราะตอนนี้สมาชิกในกลุ่มใช้วิธีการทำด้วยมือเท่านั้น
ซึ่งหากแก้ปัญหา 2 จุดนี้ได้ ตลาดยุโรปมีความต้องการน้ำพริกของกลุ่ม จะทำให้น้ำพริกของกลุ่มไปไกลได้ถึงตลาดยุโรป ชาวบ้านในชุมชนก็จะมีรายได้จากการจำหน่ายเครื่องแกง เช่น พริก ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ซึ่งในชุมชนบ้านทรัพย์ไพรวัลย์แทบจะทุกครัวเรือน จะปลูกเครื่องแกงเหล่านี้ไว้อยู่แล้ว ซึ่งหากขายตลาดน้ำพริกได้ ประชาชนในชุมชนก็จะมีรายได้ไปด้วย
สำหรับหน่วยงานใดที่พอให้ข้อมูล คำชี้แนะ หรือแนะนำขั้นตอนต่างๆ เพื่อดันน้ำพริกให้เป็นสินค้าโอทอปเพื่อส่งขายตลาดยุโรปได้อย่างถูกต้องได้ หรือท่านใดที่สนใจน้ำพริกของทางกลุ่ม ราคาไม่แพง อย่างน้ำพริกสมุนไพร ราคากิโลกรัมละ 250 บาท/แจ่วบ่อง กิโลกรัมละ 140 บาท และน้ำพริกแกงเผ็ด กิโลกรัมละ 120 บาท ก็สามารถติดต่อได้ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านทรัพย์ไพรวัลย์ หรือโทร 095-321-0302
ภาพ/ข่าว กรรณิการ์ สิงหะ ผู้สื่อข่าว จ.พิษณุโลก