ราชทัณฑ์ ประกาศเตือน 2 "ผู้ต้องขัง" แหกคุกมุกดาหาร
2 "ผู้ต้องขัง" แหกเรือนจำนาโสก จังหวัดมุกดาหาร ราชทัณฑ์ สั่งระดมกำลังล่า พร้อมเตือนผู้สนับสนุน ให้ที่หลบซ่อน ต้องถูกดำเนินคดี
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 กันยายน 2546 กรมราชทัณฑ์ ได้รับแจ้งจากนายบัณฑิตย์ เชื้อม่วง ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ของวันที่ 18 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ได้มีผู้ต้องขังชาย จำนวน 2 ราย คือ ข.ช.อนุวัฒน์ เจริญสุข อายุ 30 ปี และ ข.ช.ธรรมรัตน์ เพชรรัตน์ อายุ 21 ปี ทั้งสองเป็น "ผู้ต้องขัง" คดีขับรถและเสพยาเสพติด ได้หลบหนีออกจากเรือนจำชั่วคราวนาโสก ของเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร
โดย "ผู้ต้องขัง" ทั้ง 2 คน เป็นผู้ต้องขังเข้าใหม่ และอยู่ในระหว่างการกักกันโรค ตามมาตรการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เบื้องต้น "ผู้ต้องขัง" ได้ปีนขึ้นฝ้าเพดานของเรือนนอน และดึงตะแกรงเหล็กจนฉีกขาด ก่อนมุดขึ้นบนหลังคาหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมได้ยินเสียง "ผู้ต้องขัง" ในห้องเดียวกันตะโกน บอกว่า มีผู้ต้องขังจะหลบหนี จึงได้วิ่งขึ้นไปตรวจสอบบนเรือนนอน พร้อมคุมเชิงไม่ให้ผู้ต้องขังรายอื่นร่วมกันหลบหนี เป็นจังหวะที่ผู้ต้องขังทั้งสองปืนแนวรั้วลวดหนาม โดยอาศัยความมืดหลบหนีไปได้
ทั้งนี้ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งสั่งการให้เร่งติดตาม "ผู้ต้องขัง" ให้ได้โดยเร็วภายใน 48 ชั่วโมง หากยังไม่สามารถจับกุมกลับมาได้ ต้องมีผู้รับผิดชอบจากการหลบหนีของ "ผู้ต้องขัง" ดังกล่าว
ซึ่งทางเรือนจำฯ ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร และจัดกำลังเจ้าหน้าที่ฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกติดตามจับกุม "ผู้ต้องขัง" ดังกล่าวแล้ว โดยได้ติดต่อไปที่ญาติผู้ต้องขังทั้งสองราย ซึ่งได้รับแจ้งว่าผู้ต้องขังไม่ได้หลบหนีกลับมาที่บ้าน
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องขังที่หลบหนีระหว่างคุมขังนั้น จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบหนี หรือให้การสนับสนุนในการหลบหนี หรือให้ที่พักอาศัย จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยเช่นกัน ดังนั้น หากผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแส "ผู้ต้องขัง" ได้ที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร หมายเลขโทรศัพท์ 080-071-1976 หรือ 042-660544 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ปัจจุบัน กรมราชทัณฑ์ ได้เร่งหาแนวทางการแก้ไขปัญหา "ผู้ต้องขัง" หลบหนีจากเรือนจำชั่วคราวที่ใช้เป็นห้องกักโรคด้านนอกเรือนจำ โดยสั่งการให้เรือนจำทั่วประเทศดูแลโครงสร้างทางกายภาพของเรือนจำชั่วคราวและอาคารห้องกักโรค ต้องมีความมั่นคงแข็งแรง ป้องกันการหลบหนี
โดยเฉพาะหลังคาต้องเสริมเหล็กฉีก หรือวัสดุอื่นที่แข็งแรง เหล็กกรงควรมีขนาดเท่ากันทุกด้าน มีการติดตั้งกล้องซีซีทีวี. ทั้งภายในอาคารและบริเวณโดยรอบ ขณะเดียวกัน ทางเรือนจำควรมอบหมายผู้อำนวยการส่วนหรือหัวหน้าฝ่ายควบคุมไปปฏิบัติการประจำ และให้มีระบบรายงานตรวจสอบตามลำดับชั้น และให้เจ้าหน้าที่ตรวจตราเวรยามทั้งกลางวันและกลางคืน ตลอดจนให้ประสานความร่วมมือจากหน่วยงานภายนอกเช่นตำรวจในการร่วมดำเนินงานตรวจด้วย "ผู้ต้องขัง"