ข่าว

ลุ้น"ครม."เคาะขยายเพดานหนี้สาธารณะ -เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 -ปรับภาษีบุหรี่

ลุ้น"ครม."เคาะขยายเพดานหนี้สาธารณะ -เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 -ปรับภาษีบุหรี่

21 ก.ย. 2564

จับตา"ครม."เคาะขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็นร้อยละ 70 เปิดช่องกู้เพิ่มได้อีก 1 ล้านล้านบาท -ลุ้น การท่องเที่ยวฯ ชง "ครม."เห็นชอบโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ด้าน ก.เกษตรฯ เสนอโผแต่งตั้งระดับ 10 อธิบดีกรมหลายตำแหน่ง-คลังชงปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่เพิ่มขึ้น

 

 

การประชุม "คณะรัฐมนตรี" (ครม. )ในวันนี้( 21 ก.ย. ) มีวาระที่น่าสนใจหลายเรื่อง

 

 

กระทรวงการคลัง จะเสนอให้ที่ประชุม "ครม."พิจารณาปรับเพดานหนี้สาธารณะเป็นร้อยละ 70 เปิดช่องให้รัฐบาลมีโอกาสออกฎหมายกู้เงินสำหรับใช้รับมือโควิดและกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม นอกเหนือจากแผนบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบ 2565 ได้อีกประมาณ 1 ล้านล้านบาท

 

 

อย่างไรก็ตาม เรื่องการกู้จะต้องดูความเหมาะสมของสถานการณ์ไม่จำเป็นว่าเมื่อขยายเพดานหนี้แล้วจะต้องกู้เพิ่มแน่นอน เพราะขณะนี้รัฐบาลยังเหลือกรอบเงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้าน อีกกว่า 4.2 แสนล้านบาทให้ใช้ได้ ส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีในปี 64 จะปิดที่ร้อยละ 58.96

 

 

 ส่วนอีกวาระ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเสนอที่ประชุม"คณะรัฐมนตรี" เห็นชอบโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 

 

 

ทั้งนี้โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 คาดว่า จะสามารถเปิดให้ลงทะเบียนได้ในวันที่ 24 กันยายน 2564  และขณะนี้เว็บไซต์ เราเที่ยวด้วยกัน.com มีการโพสต์ เตรียมพบกับโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟสใหม่เร็ว ๆ นี้แล้ว

 

 

ซึ่งสิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกันนั้น พบว่า สิทธิที่พักเหลือจำนวน 5,000,000 สิทธิ และสิทธิตั๋วเครื่องบินเหลือ 2,000,000 สิทธิ

 

 

สำหรับการลงทะเบียนนั้น มีเงื่อนไขคือ มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน โดยประชาชนจะได้รับสิทธิเมื่อลงทะเบียนสำเร็จ และใช้จ่ายในโรงแรม ร้านอาหาร หรือสถานที่ท่องเที่ยวได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้น จังหวัดตามทะเบียนบ้านของผู้ใช้สิทธิ

 

 

ส่วนประชาชนที่เคยลงทะเบียนโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 1 และ 2 แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนรับสิทธิใหม่สามารถใช้สิทธิที่คงเหลือต่อได้
 

 

 

ส่วนประชาชนที่เคยลงทะเบียนโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 1 และ 2 แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนรับสิทธิใหม่ สามารถใช้สิทธิที่คงเหลือต่อได้

 

 

 

 


 


 

 

 

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง

 

 

 

 

 

 

 

ส่วนอีกวาระหนึ่งที่น่าสนใจ คือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเสนอรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ10 หลายตำแหน่ง เข้าสู่การพิจารณาในการประชุม "ครม."

 

 

โดยคาดว่า จะมีการเสนอ รายชื่อ  นายประยูร อินสกุล  รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร

 

 

ด้านนายเข้มแข็ง  ยุติธรรมดำรงค์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน นางสาวเบญจพร ชาครานนท์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ไปดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  

 

 

นอกจากนี้มีข่าวว่า กรมสรรพสามิตได้เสนอให้กระทรวงการคลังนำโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่เสนอให้ที่ประชุม "ครม." พิจารณาในวันนี้ เพื่อจะได้มีเวลาให้ "ครม." พิจารณาตัดสินใจ หากมีข้อปัญหาที่จะต้องเปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงก็จะมีเวลาพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไปได้ทัน และให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม ปีนี้

 

 

ทั้งนี้กรมสรรพสามิตได้มีการพิจารณาการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เคยเกิดในอดีต และตอบโจทย์ใน 4 เรื่องหลัก คือ

 

 

1.ด้านสาธารณสุข 2. ด้านเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบ จะต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด 3. ด้านรายได้ของรัฐบาลจะต้องไม่ลดลง และ 4. ด้านการดูแล บริหารจัดการบุหรี่เถื่อน และบุหรี่ปลอม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ภายใต้โจทย์ทั้ง 4 เรื่องนี้ โครงสร้างภาษีใหม่อาจจะไม่ใช่สิ่งที่กลุ่มผู้ค้าบุหรี่บางกลุ่มต้องการ เพราะว่ามีข้อเสนอที่สุดโต่ง แต่โดยภาพรวมภาระภาษีจะปรับเพิ่มขึ้น เพราะภาษีใหม่ต้องตอบโจทย์ทั้ง 4 เรื่องหลักดังกล่าว

 

 

นอกจากนี้ยังมีวาระพิจารณาร่างพระราชกําหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 พ.ศ. คาดว่าเป็น การคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ในการรักษาดูแลผู้ป่วยเนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19