เด้งด่วน "สารวัตร" จอมกร่าง บุกตบ-ควงปืน ข่มขู่ชาวบ้าน | คมชัดลึก

จากกรณีโลกออนไลน์ ได้มีการแชร์คลิปภาพ ชายร่างใหญ่ ลักษณะคล้ายตำรวจ ก่อเหตุใช้อาวุธมีด และปืนยาว ข่มขู่ และใช้กำลังชกต่อย ทำร้ายประชาชน โดยมีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมของชายรายนี้กันอย่างกว้างขวาง อีกทั้งยังมีข้อความ โดยใช้หัวข้อว่า "เป็นตำรวจแล้วไง คิดจะทำอะไรก็ได้เหรอ" "สารวัตร"   

 

 

ล่าสุด (22 ก.ย.2564) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ได้ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เบื้องต้นได้รับทราบข้อมูลภาพคลิปกรณีดังกล่าวแล้ว จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ จตร. (หน.จต.) ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยประสานการปฏิบัติกับผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด เร่งดำเนินการโดยด่วน เนื่องจากปรากฏพฤติกรรมที่ชัดเจน "สารวัตร" 
 

เบื้องต้น ทราบว่า ผู้ก่อเหตุมียศ พ.ต.ท. ในตำแหน่ง สารวัตรหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก "สารวัตร" 

 

 

ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า ขณะเกิดเหตุ "สารวัตร" รายนี้ได้แต่งกายนอกเครื่องแบบ และขับรถยนต์มานั่งในร้านอาหารฝั่งตรงข้ามที่เกิดเหตุ และได้ก่อเหตุทะเลาะวิวาท พร้อมทำร้ายผู้เสียหาย จำนวน 2 คน โดยใช้กำลังชกต่อย และใช้อาวุธมีด รวมถึงมีการใช้อาวุธปืน ออกมาขู่ตามภาพคลิปที่ปรากฏ  

 

 

โดยเหตุเกิดบริเวณหน้าร้านค้า ใน ต.มหาชัย อ.ไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2564 เวลา 17.40 น. ที่ผ่านมา ซึ่งผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ไทรงาม ในข้อหา ทำร้ายร่างกาย ไม่ถึงกับเป็นเหตอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ และทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ผบช.น.ประกาศ 8วันก่อนเกษียณ เร่งแก้ม็อบ ป่วนแยก "ดินแดง"
• ยกเลิก "เคอร์ฟิว" ไม่เป็นผล ตำรวจเล็งดำเนินคดี ม็อบป่วนกรุง
• อ้วกจะแตก ตม.ลุยสอบ ต่างชาติทำ "ขนมปังเท้าเหยียบ"
• "หมอปลา" แจ้งกองปราบ แฉยับ ตำรวจเอี่ยวผลประโยชน์ ศูนย์บำบัดยานรก
• สาวปากน้ำแฉ "เหยื่อแท็กซี่" พม่าจอมหื่น โวยถูกพูดจาแทะโลม

 

ล่าสุด หลังจาก จตช. สั่งการดังกล่าว พล.ต.ต.ธวัช  วงศ์สง่า ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก จึงมีคำสั่ง ภ.จว.พิษณุโลก ที่ 293/64 ลงวันที่ 22 ก.ย. ให้ "สารวัตร" พ.ต.ท.ยสพนต์ พวงทอง สารวัตรหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรชุมแสงสงคราม มาช่วยราชการปฏิบัติหน้าที่ยัง ศปก.ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

 

 

พร้อมกับตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทางวินัย และดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน โดย พล.ต.อ.วิสนุฯ ได้กำชับให้ ดำเนินการทางอาญา และวินัยด้วยความเด็ดขาดต่อไป