นึกว่ารอดแล้ว นร.ม.5 กลับจากม็อบซ้อนท้ายจยย. ตระเวน "ทุบตู้สัญญาณไฟจร."
ตร.แกะรอยจากกล้องวงจปิดตามจับมือ กลุ่มวัยรุ่น ขี่จักรยานยนต์ ทุบตู้สัญญาณไฟจราจร แยกมเหสักข์ เป็นเด็กนักเรียน ม.5 ย่านราษฎร์บูรณะ รับเข้าร่วมชุมนุมมาแล้ว 4 ครั้ง
24 ก.ย.2564 ตำรวจสืบสวน สน.บางรัก และตำรวจ กก.สส.บก.น.6 จับกุมนายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ตกเป็นผู้ตองหา ก่อเหตุ ทุบตู้สัญญาณไฟจราจร พร้อมยึดกลาง เป็นเสื้อผ้า ที่ผู้ต้องหาใส่ในวันก่อเหตุ โดยเจ้าหน้าที่จับกุมได้จากหน้าบ้านพักหลังหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 44 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.บางรัก รับแจ้งว่า ตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร แยกมเหสักข์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ถูกกลุ่มคนร้ายทุบทำลาย ได้รับความเสียหาย ภายหลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ( พฐ.) พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และภาพจากกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่คาดว่าผู้ก่อเหตุจะใช้หลบหนี
หลังจากตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนและการป้องกัน อาชญากรรม จนสามารถระบุ ตำหนิรูปพรรณผู้ก่อเหตุ และยานพาหนะ อย่างชัดเจน พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และได้ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงพระนครใต้เพื่อขอหมายจับผู้กระทำความผิด และศาลได้อนุมัติออกหมายจับ
ต่อมาตำรวจทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุ พักอาศัยอยู่บริเวณซอยประชาอุทิศ 44 เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร จึงตรวจสอบและพบนายเอ (นามสมมติ) ผู้ต้องหา ยืนอยู่บริเวณด้านหน้าบ้านดังกล่าวจึงได้แสดงตัวทำการจับกุม และคุมตัวมาสอบสวน ที่ สน.บางรัก
จากการสอบสวนนายเอ (นามสมมติ) ยอมรับสารภาพว่าเมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปร่วมการชุมนุมฯ กับพรรคพวกที่รู้จักกัน และได้มีการนัดหมายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สลายการชุมนุมแล้ว นายเอ (นามสมมติ) ได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ซึ่งมีเพื่อนอีกคนเป็นผู้ขับขี่ และมีพวกอีก รวม 8 คน รถจักรยานยนต์ 4 คัน หลบหนีด่านตรวจ และลงมือก่อเหตุทุบทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ตามเส้นทางผ่านที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่าน
นายเอ (นามสมมติ) ยังให้การอีกว่าร่วมกับพวกก่อเหตุทุบทำลายตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจรแยกมเหสักข์ จริง โดยเจ้าตัวเข้าร่วมการชุมนุม มาแล้วประมาณ 4 ครั้ง ตั้งแต่เดือนสิงหาคม
ทั้งนี้ ปัจจุบันนายเอ (นามสมมติ) กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในย่านเขตราษฎร์บูรณะด้วย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำ เพื่อขยายผลอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ยางรักดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่านข่าวที่น่าสนใจ
- จับแล้วแก๊ง "แม่ค้าออนไลน์" โกงเงินมือถือเด็ก 14 เครียดเส้นเลือดสมองแตกตาย
- "วัคซีนซิโนฟาร์ม" เปิดรับหญิงตั้งครรภ์ วิจัย "ระดับภูมิคุ้มกัน" 2 เข็ม ฟรี
- คปภ. สั่ง "เอเชียประกันภัย" หยุดรับประกันภัย ต้องจ่ายเคลมลูกค้ารายเดิมปกติ
- "ราชกิจจาฯ"ประกาศแล้วค่าตรวจโควิด-19ในสถานประกอบการFactory sandbox
- "ผบ.ตร." ประกาศเชือด ตำรวจสันหลังหวะ ย้ำไม่รู้จะเลี้ยงไว้ทำไม