ข่าว

ตรีนุช  กางแผนแก้ปัญหา "หนี้สินครู" ทั้งระบบเริ่มทันที

ตรีนุช กางแผนแก้ปัญหา "หนี้สินครู" ทั้งระบบเริ่มทันที

25 ก.ย. 2564

รมว.ศึกษาฯ ตรีนุช เปิดแผนแก้ปัญหา "หนี้สินครู" และบุคลากรศึกษาทั้งระบบ ทำงานร่วมกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ให้มีเงินเดือนเหลือไม่น้อยกว่า 30% ศธ.เจรจาให้ครูที่ถูกฟ้อง แก้ไขปัญหาผู้ค้ำประกัน ตั้งเป้าอบรมวินัยทางการเงินปีละ1 แสนคน เริ่มอบรมรุ่นแรกวันที่ 1-15 ต.ค.นี้

 

 

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ.เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ได้จัดทำแผนแก้ปัญหา "หนี้สินครู" และบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบซึ่งในระยะแรกจะดำเนินการ 3 แผนงานดังนี้

 

 

แผนงานที่ 1.โครงการแก้ปัญหา "หนี้สินครู" และบุคลากรทางการศึกษา โดยใช้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูต้นแบบเป็นฐาน เพื่อดำเนินการ
แก้ไขปัญหา "หนี้สินครู" ร่วมกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูต้นแบบ จำนวน 12 แห่ง 4 ภาค ๆ ละ 3 แห่ง

 

 

ทำงานร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐทุกแห่ง และส่วนราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการในพื้นที่จังหวัด ภายในเดือนตุลาคมนี้ และขยายผลการดำเนินไปยังสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั่วประเทศที่มีความพร้อมตั้งแต่พฤศจิกายน 2564เป็นต้นไป

 

 

รูปแบบการดำเนินงานในโครงการดังกล่าว ได้มีการถอดบทเรียนจากสหกรณ์ตัวอย่าง 2 แห่ง คือ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูสมุทรปราการ จำกัด และสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกำแพงเพชรจำกัด ซึ่งพบแนวทางการแก้ไขปัญหาในประเด็นสำคัญ ดังนี้

 

 

1.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของสหกรณ์ออมทรัพย์ให้ต่ำลงไม่เกิน 3% 2.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สหกรณ์และสถาบันการเงินให้สอดคล้องกับสินเชื่อที่มีอัตราความเสี่ยงต่ำ 4.5-5% 3. จัดสรรผลกำไรมาเพิ่มเงินเฉลี่ยคืนเงินกู้ให้มากขึ้น ไม่น้อยกว่า 30% ของผลกำไร  4. การบริหารความเสี่ยงการลดค่าธรรมเนียมและการค้ำประกันที่ไม่จำเป็น  

 

 

5. ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูยกเลิกการฟ้องคดี รวมหนี้จากทุกสถาบันการเงินมาไว้ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูและสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ในอัตรา 2.5 % การปรับโครงสร้าง"หนี้ครู"ก่อนเกษียณ อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป และลดดอกเบี้ยเงินกู้แก่ครูที่มีอายุ 75 ปีขึ้นไป ตั้งแต่ 0.25-0.50.% ปรับลดการส่งค่าหุ้นรายเดือน

 

 

 

 

 

 6.จัดทำฐานข้อมูลสมาชิกและการเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับสถาบันการเงิน และต้นสังกัด 7. ร่วมกันส่วนราชการต้นสังกัดหัก ณ ที่จ่าย ควบคุมยอดหนี้ไม่ให้เกินความสามารถในการชำระหนี้ของสมาชิกสหกรณ์  จะต้องมีเงินเดือนเหลือไม่น้อยกว่า 30%  

 

 

8. ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการสร้างระบบพัฒนาและดูแลสมาชิก ให้ความรู้เสริมสร้างวินัยและ การวางแผนทางด้านการเงิน การสร้างอาชีพเสริม ลดรายจ่าย เพิ่มการออมและไม่ก่อหนี้เพิ่ม นางสาว
ตรีนุช กล่าว

 

 

รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า แผนงานที่ 2.คณะกรรมการแก้ไขปัญหา"หนี้สินข้าราชการครู"และบุคลากรทางการศึกษาของ ศธ. เจรจากับสถาบันการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาครูรายที่ถูกฟ้อง พร้อมแนวทางการแก้ปัญหาของผู้ค้ำประกัน และการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2564

 

 

โดยให้มีการดำเนินการแก้ปัญหาร่วมกันในระดับพื้นที่จังหวัดในการปรับโครงสร้างหนี้ ระหว่างสหกรณ์ออมทรัพย์ครู สถาบันการเงิน และส่วนราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการระดับจังหวัด และแผนงานที่

 

 

3.จัดอบรมพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา กลุ่มอายุราชการ 1- 5 ปี ให้มีความรู้ทางด้านการวางแผนและการสร้างวินัยทางการเงินและการออม โดยมีเป้าหมายอบรม 1 แสนคนต่อปี โดยเริ่มอบรมรุ่นที่1 ระหว่างวันที่ 1-15  ตุลาคม 2564  ออนไลน์ผ่านศูนย์ Deep กระทรวงศึกษาธิการ

 

 

ทั้งนี้ข้อมูลภาพรวมปัญหา"หนี้สินครู"และบุคลากรทางการศึกษา พบว่า ครูฯทั่วประเทศประมาณ 9 แสนคน หรือ  80% มีหนี้รวมกัน 1.4 ล้านล้านบาท โดยเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุด คือสหกรณ์ออมทรัพย์ครู วงเงิน 8.9 แสนล้านบาท คิดเป็น 64 %รองลงมาคือ ธนาคารออมสิน วงเงิน 3.49 แสนล้านบาท คิดเป็น 25 % ของ"หนี้สินครู"ทั้งหมด