ข่าว

บิ๊กป้อม สั่ง สทนช.ลุยใต้ พร้อมรับมือ "น้ำหลาก" ก่อนเข้าฤดูมรสุมช่วงปลายปี

บิ๊กป้อม สั่ง สทนช.ลุยใต้ พร้อมรับมือ "น้ำหลาก" ก่อนเข้าฤดูมรสุมช่วงปลายปี

25 ก.ย. 2564

พลเอก ประวิตร ห่วงใต้คาดฝนเยอะจากลานีญาสั่งการเลขาฯ สทนช. ลงพื้นที่รุดติดตามความก้าวหน้าโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง วางระบบผันน้ำล่วงหน้าป้องวิกฤติอุทกภัยลุ่มน้ำตรังพร้อมย้ำวางแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่รับมือ "น้ำหลาก" ภาคใต้ล่วงหน้า ก่อนเข้าฤดูมรสุม

 

 

วันที่ 25 ก.ย.64 ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) กล่าวระหว่างลงพื้นที่หารือร่วมกับนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝนในพื้นที่ภาคใต้ ปี 2564 ณ โครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง ต.หนองตรุด  อ.เมือง จ.ตรัง

 

 

เพื่อติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินงานตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝน ตามข้อสั่งการ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) ซึ่งมีข้อห่วงใยต่อสถานการณ์ "น้ำหลาก" ในพื้นที่ภาคใต้ ตามที่มีสัญญาณของปรากฏการณ์ลานีญาอ่อน ๆ ในช่วงปลายปี โดยกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านน้ำภายใต้ กอนช.ติดตามสภาพอากาศ

 

 

และประเมินแนวโน้มสถานการณ์น้ำ ปริมาณฝน และพายุอย่างใกล้ชิด รวมถึงวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบให้กับประชาชนล่วงหน้า ก่อนที่ภาคใต้จะเริ่มเข้าสู่ฤดูมรสุมในช่วงเดือนตุลาคม–ธันวาคม

 

 

ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำตรัง ขณะนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ระดับยังต่ำกว่าตลิ่งทุกสถานี

 

 

ขณะที่แหล่งน้ำใน จ.ตรัง มีความจุเก็บกักรวม 29.62 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวม 24.35 ล้าน ลบ.ม. แบ่งเป็น แหล่งน้ำขนาดกลาง 2 แห่ง แหล่งน้ำขนาดเล็ก 150 แห่ง

 

 

โดยขณะนี้ยังไม่มีอ่างเก็บน้ำที่มีความเสี่ยงน้ำมากแต่อย่างใด แต่ก็ต้องไม่ประมาทและต้องบริหารจัดการน้ำเพื่อรองรับปริมาณฝนที่ตกลงมาเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่25–27 ก.ย. 64 มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง และในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้าด้วย 

 

 

บิ๊กป้อม สั่ง สทนช.ลุยใต้ พร้อมรับมือ \"น้ำหลาก\" ก่อนเข้าฤดูมรสุมช่วงปลายปี

 

 

 

บิ๊กป้อม สั่ง สทนช.ลุยใต้ พร้อมรับมือ \"น้ำหลาก\" ก่อนเข้าฤดูมรสุมช่วงปลายปี

 

 

รองนายกฯได้กำชับให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ทั้งที่เป็นสิ่งก่อสร้างและไม่ใช่สิ่งก่อสร้าง เร่งขุดลอกคูคลองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ รวมทั้งการพร่องน้ำในคูคลองและอ่างเก็บน้ำให้มีที่ว่างพอ สำหรับการรับ"น้ำหลาก"

 

 

บิ๊กป้อม สั่ง สทนช.ลุยใต้ พร้อมรับมือ \"น้ำหลาก\" ก่อนเข้าฤดูมรสุมช่วงปลายปี

 

 

นอกจากนี้ยังให้มีการเตรียมความพร้อมเครื่องจักรเครื่องมือ เช่น เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ รถขุด เรือขุด การจัดเตรียมระบบโทรมาตรไว้คอยเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยให้ประชาชนทราบล่วงหน้า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำได้อย่างทันท่วงที
ดร.สมเกียรติ กล่าว

 

บิ๊กป้อม สั่ง สทนช.ลุยใต้ พร้อมรับมือ \"น้ำหลาก\" ก่อนเข้าฤดูมรสุมช่วงปลายปี

 

 

ดร.สมเกียรติ กล่าวอีกว่า สำหรับการเตรียมการรับมือ "น้ำหลาก" ในช่วงฤดูฝนนี้ของโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง ซึ่งประกอบด้วยระบบคลองผันน้ำ ประตูระบายน้ำและอาคารประกอบ

 

 

ปัจจุบันโครงการจะมีความคืบหน้าประมาณ 60.45% แต่ในช่วงฤดูฝนนี้ กรมชลประทานได้เตรียมทำการระบายน้ำผ่านคลองผันน้ำเมื่อปริมาณน้ำในแม่น้ำตรังมากกว่า 300 ลบ.ม./วินาที 

 

 

 

 

พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำที่ติดอยู่กับแนวคลองผันน้ำกรณีที่ปริมาณน้ำมากหรือน้ำล้นตลิ่ง เพื่อปกป้องน้ำท่วมเขตเมืองตรัง ต.หนองตรุด ต.บางรัก ต.นาโตะหมิง ซึ่งที่ผ่านมาเกิดปัญหาอุทกภัยสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในเขตชุมชนเมืองและพื้นที่ข้างเคียง เป็นประจำเกือบทุกปี

 

 

อย่างไรก็ตามเมื่อโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรังแล้วเสร็จประมาณปี’65 กรมชลประทานได้ออกแบบไว้รองรับวิกฤติในอนาคต โดยสามารถรองรับการระบายน้ำได้ถึง 750 ลบ.ม./วินาที จาก
สถิติที่ต้องระบายน้ำสูงสุด 400 ลบ.ม./วินาที ก็จะบรรเทาอุทกภัย 3 ตำบลในเขตเมืองตรังเป็นพื้นที่กว่า 10,000 ไร่ได้อย่างยั่งยืน      

 

 

โดยสามารถนำน้ำที่เก็บกักไว้ไปใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตรในช่วงฤดูแล้งกว่า 3,000 ไร่ อีกทั้งยังเป็นแหล่งน้ำต้นทุนในการผลักดันการรุกตัวของน้ำเค็ม เพื่อรักษาระบบนิเวศ และช่วยผลิตน้ำประปาได้ปีละประมาณ1.74 ล้าน ลบ.ม.ด้วย.

 

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง