สหรัฐฯ ผลักชาวเฮติ "กลับประเทศ" ที่อุตส่าห์หนีออกมา | คมชัดลึก

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้อพยบจากความไม่สงบภายในประเทศเฮติและผู้อพยพจากแอฟริกากว่า 13,000 คน ต่างเดินทางผ่านประเทศเม็กซิโกเพื่อหวังไปพึ่งใบบุญรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกาในการสร้างชีวิตใหม่ ทำให้ชายขอบของรัฐทั้งสองกลายเป็นที่พักพิงของผู้อพยพจำนวนมาก ทำให้สหรัฐฯ ทำการเนรเทศชาวเฮติอย่างน้อย 2,853 คนออกจากรัฐเท็กซัสแล้ว

เฮติเป็นประเทศที่ได้รับเคราะห์กรรมความไม่สงบทางการเมือง ความยากจน และภัยพิบัติอยู่บ่อยครั้ง แต่จุดชนวนการอพยพในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฏาคม ที่ประธานทิปดีเฮติ นาย Jovenel Moïse ถูกลอบสังหารภายในที่พัก โดยภรรยาของเขาได้ออกมาเปิดเผยในทวิตเตอร์ภายหลังว่า "เป็นฝีมือกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงประเทศสู่ระบบประชาธิปไตย" 


นอกจากเหตุการณ์ลอบสังหารยังตามมาด้วยแผ่นดินไหวขนาด 7.2 ริกเตอร์ที่ยิ่งซ้ำเดิมปัญหาความยากจนเดิมที่มีอยู่ 

ถึงแม้การย้ายถิ่นฐานดูจะเป็นทางออกให้ชีวิตสำหรับหลายคน แต่การถูกเนรเทศออกจากอเมริกาก็เป็นสิ่งที่ผู้อพยพต่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนทำให้ผู้อพยพต้องเดินทางกลับไปยังเมือง Port-au-Prince เมืองหลวงของประเทศเฮติ

เมือง Port-au-Prince ตอนนี้ถูกควบคุมโดยกลุ่มคนติดอาวุธ ถูกปิดล้อมด้วยกองไฟจากการต่อสู้ และไม่ได้รับการดูแลใดๆ รถยนต์ที่จอดอยู่ต่างถูกทำลาย ความสกปรกที่สะท้อนผ่านกองขยะถูกตั้งตระหง่านเป็นอนุสารณ์สถานไว้กลางเมือง ข่าวการลักพาตัวที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดมีคนถูกลักพาตัวไป 10 คนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผู้คนที่ติดอยู่ในเมือง Port-au-Prince ไม่สามารถเข้าถึงบริการสาธารณะใดๆ ไม่ว่าจะบริการสาธารณะสุข น้ำดื่ม ไฟฟ้า หรือการคมนาคม

นี่คือทั้งหมดที่ผู้ที่ถูกเนรเทศกลับมาได้พยายามหนี แต่วันนี้พวกเขาต้องต้องมาร่วมชะตากรรมแบบนี้อีกครั้ง

ด้วยเหตุนี้องค์กรสหประชาติ (ยูเอ็น) กำลังระดมกำลังช่วยเหลือคนกลุ่มนี้อย่างเร่งด่วนและชี้ว่ามีคนที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนกว่า 18,000 คน แต่อยู่ในความดูแลของยูเอ็นประมาณ 5,000-7,000 คน ยูเอ็นจึงกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อเข้าช่วยกลุ่มคนที่เหลือ 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• สหรัฐฯ เดือด เจ้าหน้าที่ขี่ม้า "ใช้ความรุนแรง" ทำร้ายผู้อพยพ (คลิป)
• ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย "กลุ่มตาลีบัน" จับคนห้อยคอกลางเมือง (คลิป)
• พนักงานปั๊มเยอรมัน "ถูกยิงดับ" เพราะสั่งให้ลูกค้ากลับไปใส่ หน้ากากอนามัย​​​​​​​

ที่มาข้อมูล:
www.bbc.com/news/world-us-canada
www.opendemocracy.net/en/democraciaabierta
https://apnews.com/article/haiti-port-au-prince-texas-border