ข่าว

นายกสมาคมมัคคุเทศก์ไทย "ร้อง ผบ.ตร." จี้ตรวจสอบตำรวจท่องเที่ยวจับไกด์

นายกสมาคมมัคคุเทศก์ไทย "ร้อง ผบ.ตร." จี้ตรวจสอบตำรวจท่องเที่ยวจับไกด์

27 ก.ย. 2564

นายกสมาคมมัคคุเทศก์ไทย "ร้อง ผบ.ตร." ให้ตรวจสอบตำรวจท่องเที่ยวกระบี่ หลังไกด์ถูกจับกุม ขณะพาลูกทัวร์ 41 ชีวิต ท่องเที่ยวใน ต.แหลมสัก

27 กันยายน 2564 นายทิพากร จันทร์แถม นายกสมาคมมัคคุเทศก์ไทย หรือ สมท.ได้ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร.) "ร้อง ผบ.ตร."  เพื่อขอให้ตรวจสอบ การปฏิบัติหน้าที่และการบังคับใช้กฎหมายโดยไม่เป็นธรรมของตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ต่อมัคคุเทศก์

 

  นายกสมาคมมัคคุเทศก์ไทย \"ร้อง ผบ.ตร.\" จี้ตรวจสอบตำรวจท่องเที่ยวจับไกด์

 

นายทิพากร กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 นายภูมิ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นมัคคุเทศก์อื่นได้นำนักท่องเที่ยวชาวไทย 41 คน เข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่ตำบลแหลมสัก ซึ่งเป็นพื้นที่พิเศษตามประกาศของคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ และในมาตรา 51 วรรค 2 กำหนดไว้ว่าในกรณีที่ในพื้นที่พิเศษมีมัคคุเทศก์ตามวรรค 1 (คือมัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่มาตรา 51 กำหนดไว้) ปฏิบัติหน้าที่อยู่ ห้ามมัคคุเทศก์อื่น (คือมัคคุเทศก์ที่นำนักท่องเที่ยวเข้าไปในชุมชน) ปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นที่นั้น "ร้อง ผบ.ตร.

 

ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้ทำการติดต่อกับผู้แทนชุมชนไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว เพื่อขอใช้บริการมัคคุเทศก์ในท้องถิ่น ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 51 วรรค2 ดังกล่าว แต่ทางชุมชนแหลมสักแจ้งว่า จะต้องใช้บริการท่องเที่ยวเหมารวมเท่านั้น ราคาท่านละ 900 บาท ทางบริษัทไม่เห็นด้วย จึงไม่ตกลงตามที่ชุมชนต้องการ และแจ้งว่าต้องการเพียงมัคคุเทศก์ 1 คนเท่านั้น เพื่อมาดูแลคณะท่องเที่ยวตามที่กฎหมายกำหนด โดยทางชุมชนได้แจ้งกลับมาอีกว่า ถ้าไม่ใช้บริการแบบเหมารวมหัวละ 900 บาท ก็จะไม่ให้มัคคุเทศก์มาบริการ "ร้อง ผบ.ตร.

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อทางชุมชนแหลมสัก ไม่ส่งมัคคุเทศก์ เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ตามที่กฎหมายกำหนด ก็ถือว่าในพื้นที่นั้นไม่มีมัคคุเทศก์ปฏิบัติหน้าที่อยู่ มัคคุเทศก์อื่น จึงสามารถเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ โดยไม่สามารถนำมาตรา 51 วรรค 2 มาบังคับใช้ได้ แต่ตำรวจท่องเที่ยวกลับเข้าทำการจับกุม นายภูมิ (นามสมมุติ) มัคคุเทศก์ที่นำนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวยังชุมชนแห่งนั้น

 

ด้วยข้อหาฝ่าฝืนมาตรา 51 วรรค 2 ในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่มีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นปฏิบัติหน้าที่อยู่ โดยเปรียบเทียบเสียค่าปรับคนละ 1,000 บาท มัคคุเทศก์จึงต้องจำยอมเสียค่าปรับไปก่อน เพราะยังมีนักท่องเที่ยวที่จะต้องดูแลรออยู่ และตำรวจท่องเที่ยวอ้างว่า การจับกุมมัคคุเทศก์นั้น ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว

 

นายทิพากร กล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือ ร้องเรียนถึง ผบ.ตร.  "ร้อง ผบ.ตร.เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบการทำงานของตำรวจท่องเที่ยว ส่วนการอ้างตามมาตรา 51 วรรค 2 เมื่อมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นปฏิบัติหน้าที่อยู่ จึงห้ามมัคคุเทศก์อื่นปฏิบัติหน้าที่ แต่ถ้ามัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่มีในพื้นที่ ไม่มาปฏิบัติหน้าที่ ถ้ามัคคุเทศก์อื่นจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจะถือว่าเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 51 หรือไม่ หากถือว่าผิด มัคคุเทศก์ท้องถิ่นไม่มาปฏิบัติหน้าที่ มัคคุเทศก์อื่นก็ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ แล้วจะใช้มัคคุเทศก์จากที่ใดมาปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลนักท่องเที่ยวในพื้นที่นั้น 

 

"ขอความกรุณาให้มีการประชุมร่วม ระหว่างผู้แทนตำรวจท่องเที่ยว และฝ่ายมัคคุเทศก์ "ร้อง ผบ.ตร.เพื่อหาข้อยุติที่ชัดเจนร่วมกัน โดยไม่ต้องทำเรื่องขึ้นไปสู่ระดับที่สูงขึ้นไป เนื่องจากเห็นว่าปัญหานี้ จะต้องเกิดกับชุมชนในพื้นที่พิเศษทั้ง 26 แห่งทั่วประเทศ ถ้ายังไม่มีความชัดเจน เกรงว่าจะเกิดปัญหากระทบกระทั่งกันไม่จบสิ้น" นายทิพากร ระบุ