รองกรมข้าว รุดช่วยชาวนาชัยภูมิ เดือดร้อนจาก "อุทกภัย"
รองฯกรมข้าวรุดช่วยชาวนาชัยภูมิที่เดือดร้อนจาก "อุทกภัย" ก่อนนายกฯ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงพื้นที่พรุ่งนี้
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เกิดฝนตกหนักเป็นผลจากอิทธิพลพายุโซนร้อนเตี้ยนหมู่ทำให้เกิดน้ำป่าหลากจากเทือกเขาลงสู่แม่น้ำชีทำให้มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ระดับน้ำท่วมน้ำป่ายังหลากท่วมสูงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ที่ถือว่าหนักสุดในรอบกว่า 50 ปี และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และคณะจะลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิตรวจสถานการณ์น้ำท่วมในวันพรุ่งนี้ ( 29 ก.ย. ) นั้น
วันนี้( 28 กันยายน 2564) นายณัฎฐกิตติ์ ของทิพย์ รองอธิบดีกรมการข้าว พร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิเพื่อเตรียมการช่วยเหลือ "ชาวนา" ที่ประสบอุทกภัย ณ วัดชัยชนะวิหาร (วัดบ้านละหาน) จังหวัดชัยภูมิ เพื่อเตรียมการต้อนรับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ลงพื้นที่มาตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
นายณัฎฐกิตติ์ เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความเป็นห่วงเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในจังหวัดชัยภูมิ จึงได้มอบหมายให้กรมการข้าวเข้าไปดูแลพี่น้องชาวนาที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้
รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวต่อไปว่า จากเหตุ "อุทกภัย" พบว่าจังหวัดชัยภูมิมีพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับความเสียหายจาก"อุทกภัย"จำนวน 145,337 ไร่ (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กันยายน 2564) โดยกรมการข้าวได้เตรียมการช่วยเหลือชาวนาที่ได้รับผลกระทบจาก"อุทกภัย"ครั้งนี้ด้วยการให้การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่ชาวนาผู้ปลูกข้าวที่ประสบภัยพิบัติ
จนทำให้ต้นข้าวที่ปลูกไว้เสียหายสิ้นเชิงหรือเสียหายมากกว่าร้อยละ 80 และจังหวัดประกาศเป็นเขตประสบภัยพิบัติในกรณีฉุกเฉินแล้ว และให้การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ห่างไกลความเจริญและขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อการเพาะปลูก เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีการจัดทำแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้ปลูกในฤดูต่อไป หรือกระจายให้เกษตรกรอื่นในชุมชนใช้เพาะปลูก
ทั้งนี้ คุณสมบัติของเกษตรกรผู้จะได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว ต้องเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติจนขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้ปลูกในฤดูเดียวกันและมีความประสงค์ขอรับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่จะเพาะปลูกในฤดูเดียวกัน หรือเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ห่างไกลความเจริญและขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อการเพาะปลูก เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีการจัดทำแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้ปลูกในฤดูต่อไปหรือกระจายให้เกษตรกรอื่นในชุมชนใช้เพาะปลูก
ผมได้มอบหมายศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวและศูนย์วิจัยข้าวในพื้นที่เร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการช่วยเหลือสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่ผู้ประสบ "อุทกภัย" โดยจะสนับสนุนให้ชาวนารายละไม่เกิน 10ไร่ ๆ ละ 15 กิโลกรัม แบ่งเป็นข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสง 1,701,200 กิโลกรัม ข้าวหอมปทุม 500,400 กิโลกรัม และข้าวเหนียว 2,350,100 กิโลกรัม รวม 4,551,700 กิโลกรัม
โดยปริมาณการสนับสนุนบรรเทาฟื้นฟูขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการเกิดภัยพิบัติร้ายแรงในแต่ละครั้ง หรือสภาพการขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าวในพื้นที่ โดยให้เป็นดุลพินิจของคณะกรรมการสำรองเมล็ดพันธุ์ข้าว เพื่อความมั่นคงแห่งชาติ ตามหลักเกณฑ์การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ปี 62
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
โดยมีการปรับอัตราการให้ความช่วยเหลือให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ตามหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่เกิดภัย 1 ก.ย. 64 ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ได้แก่ ข้าว ไร่ละ 1,340 บาท พืชไร่และพืชผัก ไร่ละ 1,980 บาท ไม้ผล ไม้ยืนต้น และอื่น ๆ ไร่ละ 4,048 บาท รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าว