ข่าว

ตำรวจรวบแล้ว อ้างชื่อ "เลขาพระราชวัง" หลอกตุ๋นเงินชาวบ้านเกือบ2ล้าน

ตำรวจรวบแล้ว อ้างชื่อ "เลขาพระราชวัง" หลอกตุ๋นเงินชาวบ้านเกือบ2ล้าน

30 ก.ย. 2564

ตำรวจเพชรบุรี พร้อมด้วยตำรวจสอบสวนกลาง บุกรวบ 18มงกุฎจอมแสบ คาอพาร์ทเม้นท์ ย่านบางมด พบแอบอ้างชื่อ "เลขาพระราชวัง" หลอกตุ๋นชาวบ้านให้โอนเงิน สูญเกือบ 2 ล้านบาท

ตามสั่งการของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง  ให้ทำการสืบสวนจับกุมผู้แอบอ้าง ใช้ชื่อ "เลขาธิการพระราชวัง" "เลขาพระราชวังผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ หลอกหลวงเงินผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ภายใต้การอำนวยการและสั่งการของ พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี , พ.ต.อ.กานต์ ธรรมเกษม รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี , พ.ต.อ.ปัญญา กุลไทย ผกก.สภ.ชะอำ , พ.ต.ท.อภิเชษฐ์ ทรัพย์ส่งเสริม รอง ผกก.สส.สภ.ชะอำ  , พ.ต.ต.ทวีเดช เทียนทอง สว.สส.สภ.ชะอำ พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.ชะอำ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการและสั่งการของ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ประจำ บช.ก. "เลขาพระราชวัง"

 

ตำรวจรวบแล้ว อ้างชื่อ \"เลขาพระราชวัง\" หลอกตุ๋นเงินชาวบ้านเกือบ2ล้าน

 

ได้ร่วมกันจับกุม นายสิทธิ (นามนสมมุติ) อายุ 40 ปี บ้านอยู่ ซอยพุทธบูชา33/2 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร  ตามหมายจับของศาลจังหวัดเพชรบุรี 239/2564 ลงวันที่ 27 กันยายน 2564 ในความผิดฐาน "ฉ้อโกงทรัพย์สิน นำเข้าข้อมูลเท็จในสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้"  โดยจับกุมผู้ต้องหา ได้ที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ซอยพระรามที่2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร "เลขาพระราชวัง

 

 



ทั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่า พฤติกรรมของคนร้ายรายนี้ มักจะนำชื่อไปแอบอ้างกับเจ้าของกิจการ หรือร้านค้าที่มีฐานะในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ว่ามีคนที่รู้จักจะนำเงินจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท แต่ไม่อยากเสียภาษี และไม่อยากให้ถูกตรวจสอบ โดยพร้อมที่จะจ่ายค่าดำเนินการให้ หากนำเงินจำนวนดังกล่าวเข้ามาได้ 

 

โดยการหลวงลวงนั้น ผู้ต้องหาก็จะแอบอ้างว่า รู้จักกับ "ราชเลขาสำนักพระราชวัง" "เลขาพระราชวังซึ่งเป็นคนจังหวัดเพชรบุรีเหมือนกัน เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ  จากนั้นก็จะพูดจาหว่านล้อมขอให้ช่วยในการนำเงินดังกล่าวเข้ามา

 

ขณะเดียขวกันผู้ต้องหา ยังได้นำรูป "ราชเลขาสำนักพระราชวัง" "เลขาพระราชวัง ที่หาได้จากอินเตอร์เน็ต มาสร้างเป็นโปรไฟล์ในแอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เพื่อให้หลอกลวงและใช้ในการสนธนากับเหยื่อ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมลงทุนในการดำเนินการนำเงินจากต่างประเทศเข้าไทย ซึ่งไม่มีอยู่จริง โดยได้โอนเงินเข้าบัญชีของผู้ต้องหา ในระยะห้วงเวลา 19 มิ.ย.- 6 ส.ค.64 ซึ่งมีรายการโอนทั้งหมด 20 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 1,439,500 บาท  และหลังจากผู้ต้องหาได้เงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้หลบหนีไป 

 

นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า ผู้ต้องหาที่แอบอ้างชื่อ "เลขาพระราชวัง ยังได้มีการตกแต่งสลิปการโอนเงิน โดยผู้ต้องหาจะมีการโอนเงิน จำนวน 100 บาท เข้ามายังบัญชีของตัวเอง จากนั้นนั้นก็จะนำมาตกแต่งตัวเลข ให้เป็นหนึ่งล้านบาท เพื่อใช้บัญชีดังกล่าว ในการหลอกเหยื่อให้เกิดความหลงเชื่ออีกด้วย 

 

จากการตรวจสอบพฤติกรรม และเส้นทางการเงิน พบว่า ในแต่ละเดือนมักจะมีเงินหมุนเวียน เข้าบัญชีของผู้ต้องหา ไม่ต่ำกว่าสามถึงสี่ล้านบาท  ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า ผู้ต้องหารายนี้ น่าจะก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง


 

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ  ได้รวบรวมพยานหลักฐาน เสนอขอนุมัติศาลจังหวัดเพชรบุรี ออกหมายจับ โดยศาลจังหวัดเพชรบุรี ได้อนุมัติเลขที่ 239/2564 ลงวันที่ 27 กันยายน 2564 ในความผิดฐาน "ฉ้อโกงทรัพย์สิน นำเข้าข้อมูลเท็จ้สู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้ 

 

กระทั่งวันที่ 29 กันยายน 2564 ชุดสืบสวน สภ.ชะอำ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการสอบสวนกลาง ได้ทำการจับกุม นายสิทธิ ผู้ต้องหาแอบอ้างชื่อ "เลขาพระราชวัง ได้ที่อพาร์ทเม้น ซอยพระรามที่2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบพบว่า นายสิทธิ ผู้ต้องหา ยังมีหมายจับศาลจังหวัดสีคิ้ว (ปากช่อง) ที่จ.55/2564 ลงวันที่ 15 กันยายน 2564 ในข้อหา "ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ และร่วมกันใชหรืออ้างเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการปลอมในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผูอื่น หรือประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่น" 

 

และจากการตรวจสอบประวัติเมื่อ 28 มี.ค.2561 พบว่า นายสิทธิ์ เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ จับกุมและดำเนินคดีในความผิดฐาน "ลักทรัพย์"  ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสิทธิ  ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป "เลขาพระราชวัง 

 

ข่าวที่น่าสนใจ