ลุยต่อไม่หยุด "นายกฯ" ตรวจน้ำนนท์ ฯ เจอม็อบรอไล่ต้องหลบเปลี่ยนจุดจอดเรือ
ลุยต่อไม่หยุด "นายกฯ" ตรวจน้ำนนท์ฯ ยันน้ำไม่ท่วมสูงเท่าปี 54 ลั่น ผมจะอยู่เพื่อทำงานตรงนี้ ขออย่าทำอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์ แต่ต้องเปลี่ยนจุดจอดเรือหลังม็อบท่าน้ำนนท์ที่รออยู่ฮือไล่ ทำให้ขบวนรถเปล่านายกฯถูกล้อม ปาขวด-น้ำปลาร้าหวิดชุลมุน
สถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ในช่วงวันที่ 23-30 ก.ย. 64 เกิดอุทกภัยใน 31 จังหวัด ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 13 จังหวัด ขณะที่ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วม 18 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา อุบลราชธานี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา
ในด้าน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้ลงตรวจสถานการณ์น้ำจังหวัดนนทบุรี
วันที่ 30 ก.ย. 2564 เวลา 13.00 น. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส, นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเดินทางมาถึงศาลาท่าเรือเทศบาลนครปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในพื้นที่ให้การต้อนรับ
จากนั้น"นายกฯ"ได้เดินเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ อ.ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี "นายกฯ"ได้ทักทายประชาชน ชาวบ้านตะโกนให้ นายกฯ สู้ ๆ ลุงตู่ สู้ๆ เป็น"นายกฯ"ตลอดไป ตัวจริงหล่อมากเลย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตอบกลับว่า จ๊ะ ๆ และทำสัญลักษณ์มือไอเลิฟยูให้กับประชาชนและชาวบ้านขอถ่ายรูปด้วยกับ "นายกฯ"
ทั้งนี้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเนื่องจากมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางกลุ่มเตรียมเคลื่อนไหวขับไล่การลงพื้นที่ของ"นายกรัฐมนตรี"ในครั้งนี้ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอความร่วมมือให้ไปรวมกลุ่มกันที่บริเวณท่าน้ำนนทบุรี อย่างไรก็ตามมีประชาชนบางส่วนเคลื่อนมาต่อต้าน "นายกรัฐมนตรี" ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบต้องคุมตัวออกนอกพื้นที่
นายกฯ รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำและการก่อสร้างแนวกำแพงป้องกันน้ำท่วม โดยนายกฯ ได้สอบถามการเตรียมแผนรับน้ำท่วมหากมีฝนหรือพายุเข้ามา พร้อมกำชับต้องทำให้ประชาชนรับรู้รับทราบว่าแต่ละจังหวัดหรือแต่ละพื้นที่ได้รับผลกระทบตรงไหน น้ำมาจากไหนและใครจะเดือดร้อนได้รับผลกระทบบ้าง
และกำชับมาตรการเฉพาะและเตรียมมาตรการเยียวยาตามระดับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมตัว เพราะส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยได้เตรียมตัวแต่ซึ่งจะไปโทษไม่ได้ จึงต้องไปพูดบ่อยๆให้ประชาชนได้เข้าใจ
นายกฯ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ต้องเตรียมแผนในพื้นที่ทั้งในและนอกพนังกั้นน้ำที่จะได้รับผลกระทบโดยแยกพื้นที่ว่าเดือดร้อนมากหรือเดือดร้อนน้อย เพื่อดูแลตามมาตรการต่างๆ อย่างไรก็ตามวันนี้เรามีกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เป็นหน่วยงานบูรณาการอยู่แล้ว โดยจะจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วน เพื่อจัดสรรงบประมาณทยอยให้
พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ยอมรับว่ามีความกังวลและห่วงสถานการณ์น้ำในขณะนี้ เพราะประเทศไทยอยู่ในฤดูมรสุมและมีพายุเตี้ยนหมู่เข้ามา ขณะเดียวกันต้องติดตามสถานการณ์โลกด้วยว่าจะเตรียมการรับความพร้อมตรงนี้อย่างไร ซึ่งธรรมชาติเป็นสิ่งที่เราห้ามไม่ได้
แต่สิ่งที่ย้ำเสมอว่าวันนี้โลกร้องเตือนมาแล้วให้เราดูแลถ้าไม่ดูแลก็จะเกิดวิกฤตการณ์ต่างๆเข้ามา ทั้งน้ำท่วม ฝนแล้งหรืออุทกภัยต่างๆ
สิ่งสำคัญที่สุดคนไทยต้องเตรียมตัวเตรียมความพร้อมว่าจะอยู่กับธรรมชาติยุคนี้ได้อย่างไร ดังนั้นตัวเองต้องเตรียมการไว้ก่อน ขณะที่
รัฐบาลก็พร้อมดูแล
"นายกฯ"กล่าวอีกว่า ตอนนี้เป็นห่วงพื้นที่ภาคกลางและโดยเฉพาะพื้นที่นอกคันกั้นน้ำแต่ได้รับคำชี้แจงจากกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าได้มีการระบายน้ำตัดยอดน้ำที่มาจากภาคเหนือตอนล่างนำออกสู่ทะเลให้เร็วขึ้น แต่ช่วงนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย จึงขอให้ติดตามกรมอุตุนิยมวิทยา
ทั้งนี้คิดว่าระบบที่เราเตรียมความพร้อมมาหลายปีที่ผ่านมามีความพร้อม แต่อาจยังไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ จึงต้องเร่งดำเนินการให้เร็วขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดการทำโครงการต่างๆต้องผ่านประชามติและผ่านความเห็นชอบของประชาชน ถ้าไม่ผ่านทำไม่ได้ติดปัญหาที่ประชาชนยังไม่เห็นชอบร่วมกัน เพราะอาจมีคนเดือดร้อนหรือไม่เดือดร้อน ขอเพียงความร่วมมือเพราะ "นายกฯ" บังคับใครไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันขอให้ช่วยกันกำจัดผักตบชวากำจัดขยะ บางอย่างเกิดขึ้นบนฝั่งกระจายลงมาสู่แม่น้ำลำคลองบ้านใครบ้านมันช่วยกันเก็บช่วยกันทำประโยชน์ นั่นคือหน้าที่ที่ต้องไปด้วยกันภาครัฐ ภาคประชาชน ประชาสังคม ธุรกิจเอกชน ทุกคนต้องช่วยกันเพื่อพลิกโฉมไปให้ได้
"นายกฯ" กล่าวว่า ทั้งนี้ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงสั่งเสมอและในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงห่วง และรับสั่งกับตนเสมอเวลาเข้าเฝ้าฯ ว่าต้องดูแลประชาชนให้มีความสุขและให้ปลอดภัยให้ประเทศชาติยั่งยืนและเดินไปข้างหน้าให้มีเสถียรภาพ ดังนั้นเราจำเป็นต้องนำเรื่องเหล่านี้มาปฏิบัติ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้นมาให้ได้
"นายกฯ" กล่าวต่อว่า ขอบคุณผู้ว่าฯ นายกเทศมนตรีและทุกคน ซึ่งคนในพื้นที่ย่อมรู้ปัญหาดีอยู่แล้ว วันนี้การเดินหน้าประเทศต้องปรับรูปแบบทั้งหมด เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยของเราทั้งเรื่องน้ำท่วม การแก้ปัญหาความยากจน การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน หรือเรื่องอื่นๆเยอะแยะไปหมด ยืนยันรัฐบาลจะทำเต็มที่
"สิ่งที่อยากฝากประชาชนไว้ว่า ผมจะอยู่เพื่ออย่างนี้ เพื่อจะทำงานตรงนี้ก็สุดแล้วแต่จะว่ายังไงกันไป ซึ่งวันนี้ไม่ได้ดูเฉพาะเรื่องที่จะมา แต่ดูทุกอย่าง ดูตั้งแต่หน้าตาประชาชนว่ามีความสุขไหม ดูขยะ ดูผักตบชวา ดูชีวิตความเป็นอยู่ ดูสีสันของบ้านของเมือง ศักยภาพเราอยู่แล้วต้องหาศักยภาพให้เจอแล้วเอาสิ่งที่เป็นจุดขายประเทศไทย ไม่
ใช่ไปทำอย่างอื่น มันไม่เกิดประโยชน์ทั้งสิ้นไป ทำอะไรก็แล้วแต่เวลานี้
พลเอกประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ขอเปรียบเทียบดูเรื่อง โควิดที่เราบริหารจัดการได้ดีกว่าหลายประเทศที่ยังมีปัญหา เรามีคน คนของเราตั้งกว่า 70 ล้านคนโดยประมาณ ทั้งคนไทยและคนที่มาทำงาน แต่เราฉีดวัคซีนได้เกือบครบแล้ว ในขณะที่ทุกวันนี้บางประเทศยังไม่ครบเลย ซึ่งเป็นประเทศรวยๆด้วยซ้ำไปที่กำลังแพร่ระบาดเยอะแยะไปหมด ดังนั้นสิ่งดีๆต้องหาให้เจอ อย่าไปจับผิดกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ เพราะยังไงมันก็เจอ เพราะยังไม่เสร็จ
พลเอกประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้วันนี้ปัญหาหลายอย่างถึงต้องมีปรับแก้กฎหมาย ซึ่งกฎหมายก็ต้องเข้าสภา ดังนั้นฝากฝ่ายนิติบัญญัติช่วยเร่งรัดกฎหมายเหล่านี้ด้วย ทั้งกฎหมายใหม่และกฎหมายไม่ทันสมัยที่ต้องปรับแก้ ดังนั้นอย่ามัวแต่ไปเอากฎหมายอื่นๆที่มีความสำคัญน้อยกว่าเข้าไปพิจารณา เพื่อจะได้แก้ปัญหาประเทศได้โดยเร็ว ซึ่งต้องทำงานด้วยกันบริหารและนิติบัญญัติ
จากนั้นเวลา 15.00 น. นายกรัฐมนตรี แวะที่ท่าเรือพิบูลย์สงคราม 4 เพื่อเยี่ยมเยียนและมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่เดือดร้อน นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลจะพยายามดูแลความเดือดร้อนให้ได้มากที่สุด รักทุกคนนะจ๊ะ อีกทั้งมีชาวบ้านตะโกนว่า ลุงตู่สู้ๆ สู้ตาย "นายกฯ" จึงกล่าวตอบว่า อย่าตายสิ
นอกจากนี้มียังมีชาวบ้านกล่าวว่า ใครให้ลาออกไม่ต้องออก ให้นายกฯ สู้หัวทะลุฝาไปเลย ทำให้นายกฯ กล่าวตอบว่า"เหรอ จ๊ะ ไม่กลัวหัวแตกเหรอ โอ้โหว นี่ดุเดือดดีนะ" ชาวบ้านจึงกล่าวว่า เห็นนายกฯโดนมาเยอะ นายกฯ กล่าวว่า"เราต้องชิน ต้องดูแลคนไทย ให้เวลาเราหน่อย เราจะทำทุกอย่างที่ทำมาแล้วให้เสร็จ"
ทั้งนี้ระหว่างพบประชาชนนายกฯ กล่าวว่าความรักความห่วงใยนายกฯ ลอยไปกับอากาศให้คนทั้งประเทศ ใครจะว่าอย่างไรก็ช่างพร้อมเอามือตบที่หน้าอก
จากนั้นมีชาวบ้านบอกว่าปี 54 น้ำท่วมสูงถึงคอ นายกฯ จึงกล่าวว่า "ปีนี้ไม่ถึงหรอก เราพยายามทำเต็มที่และเราทำเพิ่มเติมมามากจากช่วงนั้น"
จากนั้นเวลา 15.30 น. ภายหลังเสร็จสิ้นการตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้ประชาชนที่ชุมชนตลาดขวัญ "นายกฯ" พร้อมคณะ ได้เปลี่ยนจุดจอดเรือจากเดิมที่กำหนดไว้ว่าจะนั่งเรือมาขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับที่ท่าน้ำนนทบุรี แต่ปรากฎว่าระหว่างที่ล่องเรือเพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่นั้น ก็เป็นขณะเดียวกับที่กลุ่มต่อต้าน พลเอกประยุทธ์ ได้ทยอยรวมตัวกันจำนวนมากที่บริเวณท่าน้ำนนทบุรี
ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและส่วนล่วงหน้า รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ร่วมกันประเมินโดยมีการแจ้งไปทางเรือของ"นายกรัฐมนตรี" เพื่อประสานกับทีมรักษาความปลอดภัยให้เปลี่ยนจุดขึ้นเรือให้กับนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ เพื่อหลีกเลี่ยงแรงปะทะ จึงเปลี่ยนมาขึ้นเรือที่หน้าอาคารหนึ่งรัฐสภาแห่งใหม่แทน
ทั้งนี้ที่บริเวณท่าน้ำจังหวัดนนทบุรีมีกลุ่มมวลชน จำนวนมากที่มาคอยตะโกนขับไล่ พลเอกประยุทธ์ นายกฯให้ออกจากตำแหน่ง จนต้องใช้กำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนเข้ามาควบคุมสถานการณ์
โดยขณะที่ขบวนรถยนต์ของพลเอกประยุทธ์ ซึ่งเป็นรถเปล่าที่มารอรับพลเอกประยุทธ์ ได้มาถึงที่หอนาฬิกาท่าน้ำนนท์ฯทำให้กลุ่มมวลชนตะโกน ไล่นายกฯทันที่ ก่อนที่ขบวนรถจะขับวนออกไป ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับกลุ่มมวลชนที่เข้าไปชิดกับขบวนรถ พร้อมกับมีการขว้างขวดน้ำและถุงปลาร้าเข้าใส่ขบวนรถของพลเอกประยุทธ์ จนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น แต่เมื่อขบวนขับพ้นออกไปสถานการณ์จึงคลี่คลาย
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวช่วงหนึ่งบนเรือ ว่า นายกรัฐมนตรีได้เตรียมวางตารางลงพื้นที่พบประชาชนมากขึ้น และต้องขอโทษประชาชนที่ไม่ได้ไปในหลายจุดที่ได้นัดหมายกันไว้ในวันนี้เพราะไม่อยากจะให้เกิดปัญหา
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง