ข่าว

เปิดคำสารภาพ 2มือระเบิดทะลุแก๊ส  ปาบึ้มถล่ม "หมู่เบส" ตำรวจ คฝ.สาหัส

เปิดคำสารภาพ 2มือระเบิดทะลุแก๊ส ปาบึ้มถล่ม "หมู่เบส" ตำรวจ คฝ.สาหัส

01 ต.ค. 2564

2 มือระเบิดทะลุแก๊ส เปิดปากรับสารภาพ ยอมรับผลิตระเบิด และปาบึ้มถล่ม "หมู่เบส" ตำรวจ คฝ. จนได้รับบาดเจ็บสาหัส

จากกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมทะลุแก๊ส ได้ก่อเหตุใช้ระเบิดเพลิง และประทัดระเบิด ขว้างปาเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน คฝ. เหตุเกิดบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง จนทำให้ ส.ต.ต.ธนาวุฒิ จิรคเชนทร์ หรือ "หมู่เบส" ผบ.หมู่ บก.อคฝ. ถูกแรงระเบิด และสะเก็ดระเบิด เข้าที่บริเวณใบหน้าจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยแพทย์ได้ทำการผ่าตัดเพื่อช่วยชีวิต เนื่องจากมีเลือดคลั่งในสมอง และบริเวณกระดูกใบหน้าแตกละเอียด 

 

เปิดคำสารภาพ 2มือระเบิดทะลุแก๊ส  ปาบึ้มถล่ม \"หมู่เบส\" ตำรวจ คฝ.สาหัส

 

กระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมา (1ต.ค.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ต.นพศิลป์ พูนสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.ภ.2 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บุกเข้าจับกุมผู้ต้องหา ตามหมายจับ ภายในบ้านพัก ซอยลำโพ  ตำบลลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา ได้จำนวน 2 ราย ในข้อหา "พยายามฆ่าเจ้าพนักงานตำรวจ" โดยปาระเบิดใส่ ส.ต.ต.ธนาวุฒิ หรือ "หมู่เบสตำรวจ อคฝ. จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2564 เวลาประมาณ 21.36 น. บริเวณ ซอยต้นโพธิ์ ดินแดง กรุงเทพฯ 

 

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 รายประกอบด้วย นายไพฑูรย์ สิงห์จารย์ (ทูร) อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 บ้านอยู่ ม.7 ตำบลบ้านโภชน์  อำเภอหนองไผ่  จังหวัดเพชรบูรณ์  ตามหมายจับของศาลอาญา เลขที่ 1589/2564 ลง 29 กันยายน 2564 และ  นายสุขสันต์ แก้วยศ (ตั๊ก) อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 บ้านอยู่หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านโภชน์  อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ตามหมายจับของศาลอาญา เลขที่ 1590/2564  ลง 29 กันยายน 2564 "หมู่เบส

 


 

ข่าวที่น่าสนใจ




โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 กับผู้ต้องหาที่ 2 ว่า “ ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน "หมู่เบสซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำหรือได้กระทำการตามหน้าที่ และร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนร่วมกันมากกว่ายี่สิบห้าคน ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศ หรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

 

เปิดคำสารภาพ 2มือระเบิดทะลุแก๊ส  ปาบึ้มถล่ม \"หมู่เบส\" ตำรวจ คฝ.สาหัส

 

มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย  ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองโดยผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ ,เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมตาม มาตรา 215 ให้เลิกแล้วไม่ยอมเลิก ,ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธ "หมู่เบส


จากการสอบถามผู้ต้องหาที่1 ให้การยอมรับว่า ในวันที่ 11ก.ย.2564 ได้เข้าร่วมชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดง โดยได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหาที่ 2 มาจากบ้านพักในซอยลำโพ  อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี  และช่วงเวลาประมาณ 22.30 น.ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ. เข้ามาในพื้นที่ จึงได้หลบหนีเข้าไปในซอยต้นโพธิ์

 

และได้เจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ. อีกกลุ่มหนึ่ง จึงได้ปาระเบิดที่ได้ทำขึ้น จำนวน 1 ลูก ไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ. "หมู่เบสแล้วได้วิ่งหลบหนีไป บนแฟลตดินแดง แฟลตที่ 1 ชั้นบนสุด ต่อมาหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ. ได้ถอนกำลัง จึงได้ซ้อนท้ายรถจักรยายนต์ของผู้ต้องหาที่ 2 กลับที่พัก โดยการแต่งกายวันดังกล่าว ได้สวมเสื้อยืดสีดำ มีลายสกรีนตัว X กางเกงยีนส์ สีน้ำเงิน สะพายกระเป๋าสีดำ โดยภายในกระเป๋ามีระเบิดที่ผลิตเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดจากบ้านพักของผู้ต้องหาที่ 1ไว้เป็นของกลางแล้ว
    

 

ขณะเดียวกัน จากการสอบถาม ผู้ต้องหาที่2 ให้การยอมรับว่า ในวันที่ 11 ก.ย.2564 ได้เข้าร่วมชุมนุมที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง โดยได้ขี่รถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน 1-กฐ-6954 เพชรบูรณ์ โดยมีผู้ต้องหาที่1 นั่งซ้อนท้ายมาด้วย และได้นำระเบิดที่ทำเองขนาดเท่ากำปั้นมือ พันเทปสีดำ ติดตัวไปด้วยประมาณ 7-9 ลูก โดยใส่ในกระเป๋าสีดำสะพายหลัง โดยสลับกันสะพายกับผู้ต้องหาที่1 

 

เปิดคำสารภาพ 2มือระเบิดทะลุแก๊ส  ปาบึ้มถล่ม \"หมู่เบส\" ตำรวจ คฝ.สาหัส

 

เมื่อถึงสามเหลี่ยมดินแดง ได้นำผ้าคลุมตัวสีแดง และโพกผ้าศรีษะสีแดง พร้อมกับนำระเบิดออกมาปา 1 ลูก โดยผู้ต้องหาที่ 1 ได้สะพายกระเป๋าระเบิดเอาไว้ เพราะเวลาขว้างสามารถนำออกมาขว้างได้เลย โดยไม่ต้องจุดชนวน ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ. ได้ลงพื้นที่ จึงได้แยกกับผู้ต้องหาที่ 1 และได้ขว้างระเบิด 2 ลูก ใส่อุโมงค์ ขณะที่ ตำรวจ คฝ. ขับรถผ่าน "หมู่เบสแล้วได้หนีขึ้นแฟลตดินแดง ต่อมาหลังจาก ตำรวจ คฝ. ถอนกำลัง จึงได้ขับรถจักรยายนต์คันดังกล่าว โดยมีผู้ต้องหาที่ 2 ซ้อนท้ายกลับที่พัก 

 

ทั้งนี้ จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 2 ให้การยอมรับว่า ได้ร่วมกันเป็นผู้ผลิตระเบิดแสวงเครื่องของกลางดังกล่าวด้วยตัวเอง