10ปี "โป๊ะท่าเทียบเรือ" งบ 22 ล้านสร้างไม่เสร็จชาวบ้านฝันสลาย
ฝันสลายงบ 22 ล้าน "โป๊ะท่าเทียบเรือ" ริมคลองรังสิตประยูรศักดิ์หายไปกับน้ำ 10 ปีแล้วยังสร้างไม่เสร็จชาวบ้านรังสิตงงปล่อยตากแดดร้าง
นายภาค วราธนานันท์ เจ้าของบริษัทวราธนานันท์ จำกัด อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า เรามองเห็นสภาพโป๊ะท่าเทียบเรือ ที่ถูกสร้างขึ้นในคลองรังสิตประยูรศักดิ์จากคลอง 1 ถึงคลอง 8 กลายเป็นโป๊ะตากแดด จำนวน 13 ท่า ต้องขอย้อนไปในอดีตสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปทุมธานีมีมติของบประมาณไว้ 27 ล้านแต่ถูกตัดไปเหลือ 22 ล้านเศษวัตถุประสงค์ที่ขอไปนั้นเพื่อทำตลาดริมน้ำ ซึ่งตลาดริมน้ำตรงนี้ก็คือบริเวณประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ในอดีตนั้นบริเวณตรงนี้มีตลาดริมน้ำอยู่จึงต้องการให้สถานที่บริเวณนี้ย้อนกลับมาเป็นตลาดริมน้ำเหมือนในอดีต จะเห็นว่าประชาชนหรือชาวบ้านทั่วไปก็จะทำมาค้าขายกันที่บริเวณตลาดริมน้ำแห่งนี้
เมื่อปีพ.ศ.2555 นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีได้โยกงบประมาณตรงนี้ไปสร้างท่าเรือริมคลองรังสิตประยูรศักดิ์จากคลอง 1 ถึงคลอง 8 จำนวน 13 ท่าจอดเรือเพื่อต้องการวิ่งเรือจากกรุงเทพฯเข้าไปถึงคลอง 8 ในฐานะประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของจังหวัดปทุมธานี ไม่เข้าใจกับการโยกงบประมาณไปในครั้งนั้น ต่อมาปี2558 นายสุรชัย ขันอาสา ได้รื้อฟื้นโครงการดังกล่าวเพื่อจะให้มีการวิ่งเรือให้ได้แต่ก็ต้องพับเก็บไปจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในชีวิตของตนเองนั้นเป็นเด็กรังสิตเติบโตมาจากรังสิตอยู่กับแม่น้ำลำคลองมาตลอดจะเอาเรือวิ่งจากกรุงเทพฯผ่านประตูน้ำตามคลองต่างๆได้อย่างไรซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วเนื่องจากทุกอย่างมันเป็นไปไม่ได้แต่ด้วยความมีอำนาจเขาก็ทำไปจนกลายเป็นโป๊ะตากแดดอย่างที่เห็นทุกวันนี้ ซึ่งน้ำในคลองนั้นมีความตื้นเพียง 1 เมตรครึ่งโดยทางกรมชลก็ได้บอกเตือนไว้แล้ว ขอแจ้งเหตุผลให้ทราบว่าถ้านำเรือที่มีใบพัดอยู่กลางลำ สมมุติว่าเรือกินน้ำไปสัก 50 เซนติเมตรใบพัดของเรือก็กินลึกลงไปเกือบ 60 เซนติเมตร ในขณะที่เรือกำลังวิ่งใบพัดก็จะปั่นเอาเศษขยะเช่นถุงพลาสติกหรือเศษวัสดุต่างๆรวมทั้งตอหม้อสะพานเก่าที่ยังหลงเหลืออยู่ทุกอย่างเหล่านี้ใบพัดใต้ท้องเรือไม่สามารถที่จะทำงานได้อยู่แล้ว ซึ่งตนเองได้ทักท้วงไปแล้วแต่ผู้มีอำนาจในขณะนั้นไม่ได้รับฟังเสียงคัดค้านจากประชาชนแต่อย่างใด คิดอยากจะทำอะไรก็ทำไป ตนเองรู้สึกว่าที่เสียภาษีไปนั้นนำไปใช้ประโยชน์ให้กับประชาชนได้เท่านี้หรือก็รู้สึกเสียดายที่เสียภาษีให้กับรัฐ วันนี้ฝากไปถึงผู้มีอำนาสูงสุดของจังหวัดปทุมธานีผมเสียดายภาษีที่เสียให้กับรัฐไป จะทำอะไรก็ได้ที่มันชอบธรรมและถูกต้อง อย่าไปคิดเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัว
นายคิรากร สิงห์คง ชาวบ้านคลอง 8 เปิดเผยว่า นายอำเภอธัญบุรีกับผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีสมัยนั้นได้คิดทำโครงการนี้ขึ้นมาตนเองมองว่าเรือมันวิ่งไม่ได้อยู่แล้วจากสภาพสิ่งแวดล้อมถ้าเกิดวิ่งไปจะทำให้ถนนรังสิตนครนายกเลียบคลองรังสิตประยูรศักดิ์พังทลายเนื่องจากคลื่นของน้ำ ประกอบถนนแห่งนี้ไม่มีกำแพงกั้นมันก็จะส่งผลให้ดินริมตลิ่งพังทลายหมดตนเองในฐานะชาวบ้านที่นี่ก็มองว่าไม่มีโอกาสที่จะวิ่งได้ ซึ่งตอนที่ทำโครงการนี้ขึ้นมาเขาก็น่าจะคิดว่างแผนเสียก่อน ผมเสียภาษีไปก็ยอมเสียดายถ้าผมทำเงินหล่นหายไป 100 ก็ต้องเสียดายแน่นอนแต่นี่งบตั้ง 22 ล้านบาท ข้าราชการต้องไปตรวจสอบกันเอง
ภาพ/ข่าว -พนอ ชมภูศรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง