กำแพงกั้นน้ำทรุดสระบุรีสั่ง "อพยพ" หลังน้ำไหลทะลักท่วม
นายอำเภอสระบุรีสั่ง "อพยพ" คนหลังกำแพงกั้นน้ำทรุดตัวขยายวงกว้างเพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากไม่สามารถควบคุมได้
วันที่ 2 ก.ย. 64 นายพุทธพงษ์ สุริยะสิงห์ นายอำเภอบ้านหมอตรวจสอบกำแพงกั้นน้ำทรุดตัวพังลงเนื่องจากปากทางน้ำออกขยายกว้างมากขึ้นเนื่องจากแนวกั้นน้ำบริเวณ ถนนช่วงต้นคลอง 23 R ที่แยกจากคลองชัยนาท-ป่าสัก พังทลายทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ ม.5 ต.สร่างโศก ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงกว่า 2 เมตร ซึ่งมวลน้ำนี้จะไหลลง ต.ตลาดน้อย ต.โคกใหญ่และ ต.หรเทพ อ.บ้านหมอ ต.หนองโดนอ.หนองโดน และอ.ดอนพุด จ.สระบุรี ส่งผลให้น้ำไหลเข้าบ้านเรือนประชาชนในเขตพื้นที่ ต.ตลาดน้อย หมู่ 1 2 4 5 น้ำสูงขึ้นเรื่อย ๆ และอ.ใกล้เคียงคือ อ.หนองโดน อ.ดอนพุด หลังจากที่ประชาชนในพื้นที่ทราบข่าวได้ออกมาติดตามสถานการณ์น้ำ ทางเจ้าหน้าจำเป็นที่ต้องกันไม่ให้ประชาชนเข้ามาใกล้เนื่องจากกระแสน้ำแรงและยังคงกัดเซาะแนวกำแพงอย่างต่อเนื่องเพราะเกรงว่าจะเกิดการทรุดตัวลงแล้วได้รับอันตราย
เบื้องต้นทางอำเภอเมืองสระบุรี ได้ประกาศให้กับประชาชนได้รับทราบ รวมทั้งประสานกับ ปภ.ในการช่วยเหลือประชาชนออกจากพื้นที่ ซึ่งในตอนนี้น้ำได้เริ่มกระจายไปตามบ้านเรือนประชาชน เพราะสถานการณ์ในตอนนี้ยังไม่สามารถควบคุมได้ เนื่องจากจำนวนมวลน้ำที่ไหลเข้ามามีจำนวนมากซึ่งจะส่งผลกระทบให้ชาวบ้า 380 หลังคาเรือน อำเภอหนองโดน และอำเภอดอนพุด ส่วนใหญ่จะเห็นพื้นที่เกษตรกร ส่วนบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจากมวลน้ำที่ไหลเข้าท่วมบ้าน มีระดับสูงกว่า 1 เมตร โดยเฉพาะ ซ.เจ้าพ่อขุนแก้ว ม.1 ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ มีระดับน้ำขึ้นสูงอย่างรวดเร็วต้องขนย้ายสิ่งของออกจากบ้าน พร้อมทั้งสัตว์เลี้ยงมาไว้ริมถนน
นายพุทธพงษ์ สุริยะสิงห์ นายอำเภอบ้านหมอ เปิดเผยว่า ตอนนี้ทางอำเภอได้ทำการแก้ไข วางบิกแพ็ก และนำตะกร้าใส่หินก้อนใหญ่ใส่เข้าไป แต่ติดปัญหาคือระดับน้ำในคลองชัยนาท-ป่าสัก มีความสูงพอเกิดการแตก จึงเหมือนทำมีสโลปของน้ำ ทำให้ไหลมาออกช่องนี้ เนื่องจากแรงดันของน้ำที่ผลักเข้ามาสูงมาก เมื่อเราหย่อนหินลงไปเท่าไรก็จะถูกตีไหลไปกับกระแสน้ำ ซึ่งตอนนี้กำลังดำเนินการเพื่อที่จะปิดช่องประตู 23 R เพื่อให้แรงดันน้ำที่ไหลมาลดลง จะได้ทำการปิดซ่อมช่วงที่กำแพงกั้นน้ำพัง แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากระดับน้ำที่สูงกว่า แรงดันน้ำที่มาแรงเลยทำให้การแก้ปัญหายังทำไม่ได้ดี ขณะที่ข้อมูลล่าสุด อำเภอเสาไห้ได้รับผลกระทบ11 ตำบลโดยมี
1.ตำบลบ้านยาง หมู่ที่ 1 , 3, 4, 5 , 6 , 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14 รวม 12 หมู่บ้าน จำนวน 141 ครัวเรือน
2.ตำบลต้นตาล หมู่ที่ 2, 3, 4, 5, 6 รวม 5 หมู่บ้าน จำนวน 8 ครัวเรือน
3.พระยาทด หมู่ที่ 1, 2 รวม 2 หมู่บ้าน จำนวน 2 ครัวเรือน
4.ตำบลศาลารีไทย หมู่ที่ 2, 3, 4, 5 รวม 4 หมู่บ้าน จำนวน 16 ครัวเรือน
5.ตำบลงิ้วงาม หมู่ที่ 1, 2, 3 รวม 3 หมู่บ้าน (หมู่3ท่วมถนน) จำนวน 14 ครัวเรือน
6.ตำบลเริงราง หมู่ที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6 รวม 6 หมู่บ้าน จำนวน 376 ครัวเรือน
7.ตำบลเมืองเก่า หมู่ 1, 3, 4, 6, 7 รวม 5 หมู่บ้าน จำนวน 20 ครัวเรือน
8.ตำบลม่วงงาม หมู่ 3 รวม 1 หมู่บ้าน จำนวน 7 ครัวเรือน สิ่งสาธารณประโยชน์ที่ได้รับความเสียหาย ถนน 1 สาย สะพาน 1 แห่ง
9.ตำบลเสาไห้ หมู่ 1, 4 รวม 2 หมู่บ้าน จำนวน 8 ครัวเรือน
10.ตำบลสวนดอกไม้ หมู่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 รวม 8 หมู่บ้าน จำนวน 45 ครัวเรือน
11.ตำบลท่าช้าง หมู่ที่ 1, 2, 5, 6 รวม 4 หมู่บ้าน จำนวน 6 ครัวเรือน ดูน้อยลง
ขอบคุณภาพ FB ไกรศร พันธุ์พูล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ย้อนรำลึกเหตุการณ์ "น้ำท่วมปี 54" อดีตที่ยากจะลืม
- "คุณพระช่วย" น้ำไม่ลด พระก็ไม่หยุดช่วยชาวบ้าน
- สระแก้ว "น้ำท่วม" หนัก น้ำล้นอ่างเก็บน้ำ ฝายพัง ถนนขาด
- "สถานการณ์น้ำท่วม" เหนือ-อีสาน เริ่มคลี่คลายแล้ว 7 เหลือ 23 จังหวัด ยังจับตา
- ด่วน ผู้ว่าฯ อยุธยา สั่งเตรียมรับวิกฤต "น้ำท่วม" ตลอด 24 ชั่วโมง