ข่าว

“สุวัจน์” แนะปรับครม.กอบกู้ศรัทธาให้ประชาชน

“สุวัจน์” แนะปรับครม.กอบกู้ศรัทธาให้ประชาชน

02 ต.ค. 2564

ปรับ ครม.ต้องได้คนดี มีความรู้ เสียสละให้กับบ้านเมือง “สุวัจน์” ระบุ รัฐบาลอยู่มากว่า 2 ปีครึ่ง เดือนมีนาคมนี้ ครบ 3 ปี เผยกำลังจะส่งไปถึงไม้ที่ 4 ฉะนั้น ไม้ต้องไม่หล่น ต้องจับไม้ให้นิ่งแล้ววิ่งถึงเส้นชัยให้ได้

กระแสปรับครม.รายวันเกิดขึ้น หลังมีตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลง  ด้วยสารพัดสูตรปรับครม.  ล่าสุดมีคำแนะนำในการปรับครม.จาก “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” อดีตรองนายกรัฐมนตรี และส.ส.คู่ใจ.”น้าชาติ”  พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี

 

 

วันที่ 2 ตุลาคม 2546  ที่จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคชาติพัฒนา กล่าวพร้อมกับหัวเราะในเรื่องการมองการเมืองในช่วงนี้ท่ามกลางความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐแรงกระเพื่อมจนมองว่าน้ำท่วมภายในพรรคแล้วว่า อันนี้เป็นปัญหาของแต่ละพรรค ตนไม่ทราบว่าในแต่ละพรรคจะได้ข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างไรก็คงให้ความคิดเห็นไม่ได้ 

นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหาตรงนี้จะส่งผลต่ออายุรัฐบาลที่เหลืออยู่หรือไม่นั้น ตนว่าวันนี้รัฐบาลถ้าเปรียบเป็นวิ่งผลัด 4 คูณ 100 วันนี้ก็ไม้สามแล้ว เพราะสภาฯก็เข้าไม้สามในเดือนมีนาคมนี้รัฐบาลก็อยู่มาครบปีที่ 3 แล้ว และวันนี้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

 

 โดยเฉพาะแก้ประเด็นที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ฉะนั้น ก็ถือว่ารัฐบาลกำลังอยู่บนไม้ที่ 3 แล้วกำลังจะเข้าไม้สุดท้าย คือ ไม้ที่ 4 ฉะนั้น การที่รัฐบาลจะมีความสำเร็จอยู่ได้ต่อไปอย่างไร จะครบหรือไม่ครบไม่ที่ 4 ตนคิดว่าขึ้นอยู่กับการแก้ไขปัญหาของประเทศและเสถียรภาพทางด้านการเมืองว่า

 

 

ถ้าเกิดภายในพรรคร่วมรัฐบาลมีความแข็งแกร่ง มีความรักมีความสามัคคี ในแต่ละพรรคเรียบร้อย อันนี้ก็ถือว่ารัฐบาลมีเสถียรภาพทางการเมืองที่เข้มแข็งแล้ว ที่เหลือเป็นเรื่องของเสถียรภาพทางด้านเศรษฐกิจคือการแก้ไขปัญหาโควิด 

การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ ต้องทำควบคู่ไปทั้งสองทาง ก็คือว่าดูแลเรื่องปัญหาภายในของแต่ละพรรค และปัญหาร่วมกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลให้เรียบร้อยก็จบไปเรื่องหนึ่ง

 

 

สองมาดูแลในเรื่องของประสิทธิภาพในการทำงานในการแก้ไขปัญหาเรื่องโควิด และการฉีดวัคซีนก็เป็นไปได้ด้วยดีใกล้เป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ และมาเตรียมแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจหลังจากที่เราเข้าเป้าโควิดคลี่คลายแล้วเราจะอัดฉีดฟื้นฟูเศรษฐกิจกันอย่างไรต้องเตรียมมาตรการนี้ไว้

 

 

นายสุวัจน์  กล่าวอีกว่า ส่วนการที่นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ส.ส.พรรคต่างๆ ทุกพรรคลงพื้นที่ในช่วงนี้มากขึ้นจะเป็นการส่งสัญญาณเลือกตั้งอะไรนั้น ตนคิดว่าเรื่องนี้ทุกพรรคก็ต้องมอง เพราะปีหน้าก็เข้าวิ่งผลัดไม้สุดท้ายแล้ว และยิ่งเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญรองรับการเลือกตั้งก็เหมือนกับทุกคนก็ต้องเตรียมตัวกันเป็นธรรมชาติของการเมือง 

 

 

“ผมคิดว่ามาสามปีแล้วปีที่สี่ทุกคนก็ต้องเรื่องการเลือกตั้ง อันนั้นเป็นปรกติ ก็ต้องเตรียมตัวอย่างนั้นแหละ ส่วนจะเลือกตั้งเร็วหรือช้าก็ขึ้นอยู่กับอัตราเร่ง และอัตราเร่งเร็วหรือช้าก็ขึ้นอยู่กับเสถียรภาพทางการเมือง ขึ้นอยู่กับการแก้ไขปัญหาของประเทศ”นายสุวัจน์กล่าว

 

 

ส่วนพรรคชาติพัฒนายังฟิตหรือจะวิ่งรับไม้ที่ 4 นั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ยังปรกติ ยังทำงานอย่างต่อเนื่องปรกติ เราทำงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชน วันนี้ไม่ได้คิดอะไรว่าจะต้องเตรียมในเรื่องการเมือง เราทำงานอยู่กับปัญหาจริงๆ อยู่กับประชาชน ส่วนการเมืองจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นเรื่องปรกติ

 

 

ผู้สื่อข่าวถามเรื่องการปรับ ครม. เก้าอี้ว่าง 2 ตำแหน่งมองอย่างไร นายสุวัจน์ กล่าวว่า เนื่องจากมีตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลงถึง 2 ตำแหน่ง ฉะนั้นถ้าจะมีการปรับ ครม. ก็เป็นเรื่องของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หรืออาจจะเป็นการปรับคณะรัฐมนตรีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของรัฐบาล

 

 

"แต่เราก็ต้องเข้าใจว่าตอนนี้รัฐบาลก็บริหารประเทศมาได้กว่า 2 ปีครึ่งแล้วและเกือบ 3 ปีก็จะเข้า 3 ปีเดือนมีนาคมนี้ ฉะนั้นถ้าเปรียบเทียบเป็นวิ่งผลัดก็คือวิ่งมา 3 ไม้และจนไม้ 3 แล้ว กำลังจะส่งไปถึงไม้ที่ 4 ฉะนั้นไม้ต้องไม่หล่น ต้องจับไม้ให้นิ่งแล้ววิ่งถึงเส้นชัยให้ได้" นายสุวัจน์ กล่าว

 

 

ฉะนั้น ถ้าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีตนคิดว่าต้องเป็นการปรับคณะรัฐมนตรีที่เข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศตามความคาดหวังของพี่น้องประชาชน อย่างตอนนี้ประชาชนกังวลเรื่องคิดว่าเมื่อไหร่จะจบ จะฟื้นฟูเศรษฐกิจกันอย่างไร และมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมเข้ามาอีก 

 

 

ฉะนั้นถ้าเกิดรัฐบาลสามารถที่จะปรับ ครม.แล้วได้คนดี คนเก่ง คนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงานในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ สมมุติเราบอกว่าอีกปีกว่าจะหมดอายุของรัฐบาล ใช้ช่วงสุดท้ายนี้ทำงานกันให้เต็มที่ ให้พี่น้องประชาชนมีความศรัทธา มีความเชื่อมั่น ทำงานให้เต็มที่เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับรัฐบาลและประเทศ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและนักท่องเที่ยว

 

 

นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า ตนว่าก็จะเป็นการปรับ ครม.ที่พี่น้องประชาชนฝากความหวัง ฉะนั้นก็ต้องพยายามให้ได้คนดี มีคามรู้ ความสามารถเข้ามาเสียสละในการทำงานให้กับบ้านเมือง โดยเฉพาะในวันเวลาที่เรามีวิกฤติเศรษฐกิจ

 

 

“การปรับ ครม.ที่จะเกิดขึ้นผมถือว่าเป็นการปรับ ครม.ที่มีความสำคัญ เพราะเป็นการปรับ ครม.ที่อยู่ในช่วงที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤติและพี่น้องประชาชนมีความคาดหวังสูงมาก ฉะนั้นการที่จะหาคนที่มีคามรู้ความสามารถมา พอประกาศชื่อ ครม.ใหม่มาแล้วพี่น้องประชาชนเกิดศรัทธา เกิดความเชื่อมั่นและเกิดความหวัง อันนี้คือพลัง ซึ่งจะเกิดพลังที่สำคัญในการกอบกู้ประเทศชาติและเศรษฐกิจ อันนี้เป็นเรื่องที่มีสำคัญของการปรับ ครม.ครั้งนี้ ”นายสุวัจน์ กล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง