ข่าว

รองโฆษก ตร. เผยเหยื่อ "Nas App" แจ้งความแล้ว 5,400 ราย เสียหายกว่า 680 ล้านบาท

รองโฆษก ตร. เผยเหยื่อ "Nas App" แจ้งความแล้ว 5,400 ราย เสียหายกว่า 680 ล้านบาท

09 ต.ค. 2564

รองโฆษก ตร. เผยมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ร่วมลงทุน "Nas App" แจ้งความแล้วกว่า 5,400 ราย มูลค่าความเสียกว่า 680 ล้าน

9 ต.ค.2564  พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.)  ชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินคดีหลอกลงทุน Nas App และเตือนภัยการหลอกลวงผ่านสื่อสังคมออนไลน์  สร้างความเสียหายซ้ำเติมความเดือดร้อนให้กับประชาชนในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ว่า

ปัจจุบันประชาชนมีการทำกิจกรรมต่าง ๆ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์มากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีกลุ่มผู้ไม่หวังดี หรือกลุ่มมิจฉาชีพ ที่ใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อหาประโยชน์ในทางทุจริต หลอกลวงหลากหลายรูปแบบ ทั้งการหลอกลงทุน การหลอกขายสินค้า  สร้างความเสียหายให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง เช่น Nas App ปัจจุบันมีผู้เสียหายที่ได้แจ้งข้อมูลผ่าน Google FormและQR Code  มายัง กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) แล้ว5,400กว่าราย พบมูลค่าความเสียหาย 680กว่าล้านบาท 


ในส่วนของความคืบหน้าในการดำเนินคดีขณะนี้ บช.สอท. อยู่ระหว่างทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลพิสูจน์ทราบถึงตัวกลุ่มผู้ต้องหาที่กระทำความผิดรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องสอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก โดยจะเร่งรัดดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายกับผู้ที่กระทำความผิดและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกรายอย่างถึงที่สุดต่อไป


 

ทั้งนี้  ขอให้ผู้เสียหายเตรียมเอกสารสลิปการโอนเงินข้อมูลการแชทหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน  โดยจะมีการประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียหายตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

สำหรับการกระทำดังกล่าวนอกจากจะส่งผลกระทบในวงกว้างและเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนแล้ว ยังเข้าข่ายความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 และความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี  ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือความผิดตามกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า  พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยเกี่ยวกับภัยการหลอกลวงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ จึงได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนให้ประสานการปฎิบัติ พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ขณะที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล พร้อมสั่งการและกำชับไปยังหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องสร้างการรับรู้ถึงภัยทางออนไลน์ และให้ทำการสืบสวนสอบสวน ปราบปรามอาชญากรรมกลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกลวงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ขยายผลไปยังเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด จริงจัง เห็นผลเป็นรูปธรรม