ด่วน เพื่อไทย ลงมติ ขับ 2 ส.ส. "ศรัณย์วุฒิ -พรพิมล" พ้นพรรค
ด่วน เพื่อไทย เอาจริง ขับ 2 ส.ส.งูเห่า "ศรัณย์วุฒิ -พรพิมล" พ้นพรรค หลังเป็นปฏิปักษ์ต่อพรรค ทำเสียชื่อเสียง-ฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่น มีผลทันที ด้าน 2 ส.ส. มีเวลา 30 วันหาสังกัดใหม่
วันที่ 12 ต.ค. 64 ที่ประชุมกรรมการบริหารและ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ลงมติ ขับ" นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ" ส.ส.อุตรดิตถ์ และ "นางสาวพรพิมล ธรรมสาร" ส.ส.ปทุมธานีให้พ้นจากสมาชิกพรรคซึ่งตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย พ.ศ.2561 ต้องใช้เสียง 3 ใน 4 คือ 108 เสียงขึ้นไป
โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงว่า กรณี"นายศรัณย์วุฒิ" มีผู้เห็นด้วยกับกรรมการบริหารพรรคที่มีมติให้ขับ "นายศรัณย์วุฒิ" พ้นจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย 131 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง บัตรเสีย 2 ใบ ส่วน"พรพิพล" เห็นด้วย 134 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง ดังนั้นจึงถือว่าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส. มีมติให้ "นายศรัณย์วุฒิ" และ"นางสาวพรพิมล" พ้นจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยให้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
สำหรับ "นายศรัณย์วุฒิ" พฤติกรรมมีลักษณะเป็นปฏิปักษ์ต่อพรรค เป็นการทำลายภาพลักษณ์และชื่อเสียงของพรรค ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพรรคอย่างร้ายแรง ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคข้อที่ 19 (3)(8) และเป็นการกระทำผิดวินัย และจริยธรรมของพรรคตามข้อบังคับ 113 (3)(5) จึงเห็นควรให้พ้นจากความเป็นสมาชิกภาพตามข้อบังคับ 118 (4)
ส่วนกรณี"นางสาวพรพิมล" กรรมการบริหารพรรคได้พิจารณาแล้วว่า มีพฤติการณ์ฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่น ไม่ยึดมั่นในเจตนารมณ์ และอุดมการณ์ของพรรค อีกทั้งเป็นการกระทำผิดซ้ำสองตามที่พรรคเคยมีมติลงโทษไปแล้ว
สำหรับ"นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ" เกิด 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 อายุ 63 ปี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุตรดิตถ์ เขต 2
สำเร็จปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์ สถาบันราชภัฎเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์และปริญญาโท สาขาบริหารภาครัฐเอกชน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
"ศรัณย์วุฒิ" เคยได้รับเลือกตั้งในนามพรรคไทยรักไทยใน พ.ศ. 2544 แต่ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีมติให้ใบแดง ก่อนที่จะได้รับการเลือกตั้งเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ในพ.ศ. 2548
แต่หลังจากพรรคไทยรักไทยถูกยุบ "นายศรัณย์วุฒิ"ย้ายไปสังกัดพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และลงเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2550 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง โดยได้รับคะแนนมาเป็นอันดับที่ 5 ของเขต (มี ส.ส. ได้ 3 คน)
หลังจากนั้น พ.ศ. 2554 ได้ย้ายกลับมาลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย จึงได้รับการเลือกตั้งเป็นครั้งที่ 2 ต่อมาการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2557 ได้ย้ายลงสมัครในนามพรรคชาติไทยพัฒนาแต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และในการเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2562 ย้ายกลับพรรคเพื่อไทย ได้รับการเลือกตั้งอีกเป็นครั้งที่ 3
โดยสรุป "นายศรัณย์วุฒิ" เป็น ส.ส. มาแล้ว 3 สมัย คือ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2548 จังหวัดอุตรดิตถ์ สังกัดพรรคไทยรักไทย, การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 จังหวัดอุตรดิตถ์ สังกัดพรรคเพื่อไทยและการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 จังหวัดอุตรดิตถ์ สังกัดพรรคเพื่อไทย
ส่วน"พรพิมล ธรรมสาร" สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี เขต 5 สังกัดพรรคเพื่อไทย (ชื่อเล่น ก้อย) อดีตนักร้องนำของวงโอเวชั่นช่วง พ.ศ. 2530 - 2532 เป็นชาวจังหวัดลำปาง ศึกษาที่โรงเรียนเซนต์จอห์น และยังเรียนร้องเพลงที่โรงเรียนดนตรีวาธินี ควบคู่ไปด้วยและสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์
"พรพิมล" เป็น ส.ส. มาแล้ว 3 สมัย เธอลงเล่นการเมืองตามสามี เริ่มที่ตำแหน่งสมาชิกสภาจังหวัดปทุมธานี ส่วนสามีเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ และในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 "พรพิมล"ได้ลงรับสมัครเลือกตั้งระดับชาติเป็นสมัยแรก และได้รับเลือกตั้งให้เป็น ส.ส.ปทุมธานี เขต 2 สังกัดพรรคพลังประชาชน
ต่อมาเมื่อพรรคพลังประชาชนถูกยุบพรรคจากคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2551 เธอก็ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย และในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 "พรพิมล"ก็ได้ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. จังหวัดปทุมธานีอีกครั้งในนามพรรคเพื่อไทย ในเขตเลือกตั้งที่ 4 และได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง จนกระทั่งการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 เธอก็ได้รับเลือกให้เป็น ส.ส.ปทุมธานี เป็นสมัยที่ 3 ในสังกัดพรรคเพื่อไทย