"บาส" มือแทง 2 ศพ กราบเท้าแม่ หลังได้รับอิสรภาพ
"บาส" มือแทง 2 ศพ ก้มกราบเท้าแม่ หลังศาลอาญาธนบุรี อนุญาตปล่อยชั่วคราว โดยมี "เสี่ยเปีย" ช่วยเหลือเรื่องเงินประกัน 5 แสนบาท เผยไม่ตั้งใจทำร้ายใคร ทำเพื่อป้องกันตัว และปกป้องครอบครัวของแฟนสาว ยอมรับกลัวคู่อริตามล้างแค้น
(15ต.ค.) จากกรณีกลุ่มวัยรุ่น จำนวน 7 คน ยกพวกปิดล้อมบ้านพักหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านสุขสันต์ 6 ซอย 42 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร โดยพยายามรุมทำร้าย นายณัฐวุฒิ พึ่งฤกษ์ดี อายุ 21 ปี หรือ "บาส" เนื่องจากไม่พอใจที่นายณัฐวุฒิ หรือ "บาส" ขับรถเฉี่ยวและปาดหน้า โดยกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ได้ยกพวกมาที่บริเวณหน้าบ้านพัก พร้อมกับขว้างปาสิ่งของ และท้ายทายให้ออกมาจากบ้าน จนทำให้ นายณัฐวุฒิ หรือ "บาส" ต้องตัดสินใจปกป้องคนภายในบ้าน ด้วยการใช้อาวุธมีด ออกไปพบคู่กรณี จนทำให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย บาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัว นายณัฐวุฒิ หรือ "บาส" ไปดำเนินคดี และส่งฟ้องศาล โดยในวันนี้ศาลได้พิจารณาปล่อยตัวชั่วคราว ด้วยหลักทรัพย์เป็นเงินประกัน จำนวน 5 แสนบาท ทันทีที่ได้อิสรภาพ นายณัฐวุฒิ หรือ "บาส" ผู้ต้องหา คดีทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ได้ก้มกราบเท้ามารดา โดยมีนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ พร้อมด้วยหมอปลา จีระพันธ์ เพชรขาว และนายสาริต แสงจันทร์ หรือเสี่ยเปีย ที่ช่วยเหลือเรื่องเงินประกัน จำนวน 5 แสนบาท "บาส"
นายณัฐวุฒิ หรือ "บาส" กล่าวว่า ตนเองไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายใคร ทุกอย่างทำไปเพื่อป้องกันตัว ส่วนที่คู่กรณีอ้างว่า ตนให้ของลับก่อนนั้น ขอยืนยันว่าไม่ใช่ความจริง ซึ่งหลังจากนี้ยอมรับว่า ค่อนข้างกลัว ที่จะถูกคู่อริตามแก้แค้น หรือเอาคืน
ขณะที่ นายไพศาล กล่าวว่า จากพฤติการณ์ของคู่กรณีของ "บาส" ถือว่าเป็นคดีอาญาแผ่นดิน ไม่จำเป็นต้องมีใครแจ้งความ หรือแจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด พนักงานสอบสวนมีอำนาจดำเนินการได้อยู่แล้ว พฤติกรรมของคู่กรณี "บาส" ที่เห็นทั้งหมดนี้ เข้าข่ายกระทำผิดถึง 6 ข้อหา
ประกอบด้วย บุกรุก, ข่มขู่คุกคาม, ดูหมิ่น, ทำให้เสียทรัพย์, ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส, และอั่งยี่ซ่องโจร ซึ่งมีพยานหลักฐานสำคัญ ทั้งตัวพยานบุคคล และประจักษ์พยานแวดล้อม เช่นคลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิด เป็นต้น หากคดีนี้พนักงานสอบสวนไม่ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากับคู่กรณีทั้งหมด ก็เข้าข่ายกระทำผิด ตามมาตรา 157 ส่วนใครจะผิดหรือจะถูก เรื่องนี้ต้องไปต่อสู้กันในชั้นศาล ตามกระบวนการยุติธรรม "บาส"
ทางด้าน พ.ต.อ.วิสิษฐ์ วัฒนพงษ์พิทักษ์ ผกก.สน.เพชรเกษม กล่าวว่า คดี "บาส" เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ และเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยในสังคม เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องมาดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว ยืนยันว่า ในส่วนของพนักงานสอบสวน จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม โดยจะเร่งรัดดำเนินการสอบสวนให้แล้วโดยเร็วที่สุด
โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนจะดำเนินคดีกับใคร ในข้อหาอะไรนั้น ต้องรอรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำทุกฝ่าย เพื่อนำมาสรุปสำนวนอีกครั้ง เพื่อความชัดเจน การดำเนินการจะไม่มีการประวิงเวลา โดยจะดูจากพยานหลักฐานเป็นสำคัญ ซึ่งพยานหลักฐานบางส่วน ต้องรอผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้น จึงขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานด้วย "บาส"