"สุวัจน์" โล่งใจ พระนอน 1,300 ปีพ้นวิกฤตน้ำท่วม
"สุวัจน์" โล่งใจ พระนอน 1,300 ปี พ้นวิกฤตน้ำท่วมจากอิทธิพลพายุ "คมปาซุ" ชี้คนโคราช ต้องร่วมใจกัน แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
วันที่ 18 ตุลาคม 2564 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมหนักที่จังหวัดนครราชสีมา ผลกระทบจากอิทธิพลพายุ “คมปาซุ” ทำให้มีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันในหลายพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมา ส่งผลให้มวลน้ำก้อนใหญ่ไหลหลากและเอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนและเส้นทางสัญจรต่างๆ
โดยโครงการชลประทานนครราชสีมา ได้ออกประกาศด่วนที่สุด ให้ประชาชนเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์น้ำที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำตามเส้นทางน้ำ ได้แก่ อำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนิน อำเภอขามทะเลสอ อำเภอเมืองนครราชสีมา อำเภอเฉลิมพระเกียรติ
โดยเฉพาะที่อำเภอสูงเนิน มวลน้ำทะลักเข้าท่วม “พระนอนหินทราย” อายุกว่า 1,300 ปี วัดธรรมจักเสมาราม อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา และบ้านเรือนกว่า 160 หลังคาเรือน ในพื้นที่บ้านแปะโนนไฮ ตำบลเสมา ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องช่วยชาวบ้านอพยพคน สัตว์เลี้ยง และทรัพย์สินขึ้นไปไว้บนที่สูง
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนมีความเป็นห่วง“พระนอนหินทราย” อายุกว่า 1,300 ปี เป็นอย่างยิ่งเพราะสถานที่แห่งนี้ เป็นโบราณสถานคู่บ้านคูเมืองของคนสูงเนิน และมีความผูกพันกับพรรคชาติพัฒนามาตั้งแต่สมัยพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี และตัวผมตั้งแต่เป็นส.ส.สมัยแรก จึงได้มอบหมายให้ศูนย์ตนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน ร่วมกับพรรคชาติพัฒนา เร่งลงพื้นที่กู้ “พระนอนหินทราย”
และวางแผนป้องกันน้ำท่วมแบบยั่งยืน เพราะเมื่อปี 2554 ท่วมครั้งแรก มาปี 2564 ท่วมเป็นครั้งที่ 2
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ผู้อำนวยการศูนย์ตนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน กล่าวว่าศูนย์ฯได้ประสานงานมายังเจ้าอาวาส ผู้ใหญ่บ้าน ในการสูบน้ำโดยมอบน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับสูบน้ำ 5 เครื่อง และกระสอบทราย 1,000 กระสอบ ทำเป็นเขื่อนกั้นน้ำรอบศาลาองค์พระนอน โดยได้รับความร่วมมือจากกองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 21 และกองพันทหารช่างที่ 3 กองทัพภาคที่ 2
นอกจากนี้ ทางศูนย์ได้เชิญเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร จังหวัดนครราชสีมา เข้าประเมินความเสียหายและนัดหมายวางแผนในการบูรณะองค์พระนอน หลังจากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติว่าเราจะทำอะไรกันได้บ้าง
“คุณสุวัจน์ อยากให้ทุกภาคส่วนมาร่วมกันบูรณาการวางแผนในการแก้ปัญหาน้ำท่วมแบบยั่งยื่น และบูรณะองค์พระนอนหินทราย อายุกว่า 1,300 ปี ให้เป็นมรดกของคนโคราชสืบไป” นายแพทย์วรรณ กล่าว
ด้าน พระครูธรรมจักรเสมารักษ์ เจ้าอาวาสวัดธรรมจักรเสมาราม เล่าว่าน้ำไหลเข้าท่วมวัดตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้า เมื่อวานนี้ ( 17 ต.ค.64) และเพิ่มระดับความสูงขึ้นเรื่อยๆ ตลอดทั้งวันระดับน้ำสูงถึงหน้าอกองค์พระก็กลัวว่าน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้ เมื่อเช้าช่วง 7 โมง จึงตัดสินใจเอาเครื่องสูบน้ำชาวบ้าน จำนวน 5 เครื่องมาระบายน้ำออก และมีเครื่องสูบน้ำของทหารช่างมาช่วยอีก 1 เครื่อง ได้น้ำมันจากศูนย์ตนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกันมาช่วย และเอากระสอบทราย 1,000 กระสอบมาทำเป็นเขื่อนกันน้ำ ตอนนี้ระดับน้ำลดลงและควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว มีเจ้าหน้าที่ทหารเฝ้าสังเกตการณ์ด้วย
“ท่านชาติชาย ชุณหะวัณ กับคุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ มีความผูกพันกัยวัดธรรมจักรเสมาราม มาก เมื่อปี 2535 ท่านชาติชาย เป็นนายกฯ ได้มาวางศิลากฤษ สร้างอาคารศาลาแห่งนี้ ไว้สำหรับคุมองค์พระนอน” เจ้าอาวาส กล่าว