ข่าว

นายกฯ ยันไม่ได้รวบอำนาจ หลังศุภชัยโวยแต่งตั้งบิ๊กเล็ก เป็นผอ.ศบค.ส่วนหน้า

นายกฯ ยันไม่ได้รวบอำนาจ หลังศุภชัยโวยแต่งตั้งบิ๊กเล็ก เป็นผอ.ศบค.ส่วนหน้า

19 ต.ค. 2564

ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกรัฐบาลแจงคำสั่งนายกฯแต่งตั้งศบค.ส่วนหน้า ที่มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เป็นผอ. ศบค.ส่วนหน้า ไม่ได้เป็นการรวบอำนาจ ร่วมมือทุกฝ่ายแก้ปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควดในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

หลังจากมีเสียงเรียกร้องจากศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯรัฐมนตรี ทบทวนคำสั่งนายกฯแต่งตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ  "ศบค.ส่วนหน้า" โดยมี  "บิ๊กเล็ก" พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์  อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)  ที่ปรึกษานายกฯ มาเป็นผอ.ศบค.ส่วนหน้า 

 

เนื่องจากเห็นว่า การแก้ปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด ควรเป็นบทบาทของสาธารณสุข หรือ แพทยที่ต้องนำการทหาร ไม่ใช่นำฝ่ายทหารมานำหมอ  แต่อย่างไรก็ตาม ล่าสุด โฆษกรัฐบาล ออกมาแถลงยืนยัน การแต่งตั้ง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์  มาเป็นผอ.ศบค.ส่วนหน้า ไม่ใช่เป็นการรวบอำนาจ 

 

เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 64  "นายธนกร วังบุญคงชนะ" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ว่า พล.อ.ประยุทธิ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม  แสดงความห่วงใยการแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ภาคใต้

 

" จึงเป็นเหตุผลหลักในการตั้งศบค.ส่วนหน้า  ยืนยันไม่ได้เป็นการรวบอำนาจ  เน้นการบูรณาการทำงานร่วมกัน เพราะทุกหน่วยต้องปฏิบัติตามกฎหมายอยู่แล้ว" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลง 

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 64  "นายศุภชัย ใจสมุทร"   โพสต์ข้อความผ่านเพจส่วนตน  ระบุว่า  เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสร่วมคณะไปสี่จังหวัดภาคใต้คือสงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณาสุข โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงร่วมด้วย

 

เนื่องจากสถานการณ์โควิดค่อนข้างตึงเครียด ซึ่งรอบนี้สาธารณสุขได้นำวัคซีนไฟเซอร์จำนวนหนึ่งล้านโดสไปเพื่อฉีดได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมครบถ้วน และจากการติดตามการร่วมกันทำงานของหน่วยงานในพื้นที่พบว่าเป็นไปอย่างดียิ่ง พูดได้ว่าเอาอยู่อย่างแน่นอนในไม่ช้า แล้วให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รวมไปถึงปลัดกระทรวงอื่นๆ ไปจนถึงผู้ว่าราชการในจังหวัดที่เกี่ยวข้องไปเป็น "ลูกมือ" ของท่าน

 

แต่หัวโต๊ะ ผู้มีอำนาจสูงสุดคือ "นายทหาร" ยศพลเอก

 

ต้องขอบคุณกับเจตนาดี ในการกระชับอำนาจ เพื่อให้ท่านมีความคล่องตัวในการบริหารงาน

 

ประเด็นคือ นี่ท่านกำลังเอาโมเดล "ความมั่นคงต้องมาก่อน" มาใช้กับเรื่องสาธารณสุข ซึ่งผมเห็นว่ามันไม่เหมาะสม เป็นการนำเอา”การทหารนำการสาธารณสุข”สอดรับกับแนวทาง”การทหารนำการเมือง”ที่ท่านนำมาใช้ในการแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

 

ผมไม่ได้มีปัญหากับตัวบุคคล แต่ผมมีปัญหากับหลักคิด ที่ใช้ทหารมานำในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่มีรายละเอียดมาก เกี่ยวกับชีวิต เกี่ยวกับสุขภาพของประชาชน ก็สมควรจะให้หน่วยงาน ที่มีความถนัดเฉพาะทางนั้นขึ้นมานำการทำงาน


หรือถ้าท่านไม่เชื่อมือใครแล้ว ท่านก็ไม่ต้องตั้งหน่วยงานอื่นๆ มานั่งกับท่าน ท่านใส่ชื่อแพทย์ทหารไปได้เลย ท่านจะได้คุมแบบเบ็ดเสร็จ

 

นายศุภชัย  ชี้ว่า  "ตอนนี้ สังคมกำลังมองว่านี่คือการ ขยายอำนาจให้ตัวเองของท่าน อย่าลืมว่า ประเทศไทย มีกฎหมายสำหรับการควบคุมโรค หลายต่อหลายตัว สามารถปรับใช้ได้เลย โดยไม่ต้องตั้งใหม่ แล้วเอาทหารมาคุมเหมือนที่กำลังทำอยู่"

 

"ผมจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัด คือ เรื่องของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ท่านยังตั้งหน้าตั้งตาใช้อยู่นั้น เอาเข้าจริง สามารถแทนที่ได้ด้วย พ.ร.ก.โรคติดต่อ ซึ่งล่าสุด มีการปรับให้เข้ากับสถานการณ์โรคระบาด แต่ท่านก็ไม่ใช้ ยังจะดึงดันรวบอำนาจไว้ที่ตัวเอง" นายศุภชัย กล่าว 

 

แล้วที่ผ่านมา การเอาทหารไปนำหมอ เราเคยเรียนรู้ มีประสบการณ์มาแล้ว

 

เดือนพฤษภาคม 2564 เรามี ศูนย์อำนวยการแก้ไขโควิด-19 พื้นที่ กทม.และปริมณฑล ท่านพลเอกประยุทธ์ นั่งเป็น ผอ.ศูนย์

 

แล้วผลออกมาเป็นอย่างไร ?

 

จากเรื่องการตั้ง ศบค.กรุงเทพฯ เท่ากับว่า ท่านพร้อมจะให้ทหารนำหมอในทุกพื้นที่ ดังนั้น อย่ามาอ้างว่า ที่ต้องตั้ง ศบค.ชายแดนใต้เพราะท่านกังวลเรื่องความมั่นคง

 

ผมไม่อยากฟื้นฝอย ไปจนถึงหาเรื่อง แต่การเมืองในระบอบประชาธิปไตย ควรกระจายอำนาจให้แต่ละคน แต่ละฝ่าย แต่ละหน่วย ได้ทำงานที่ถนัดมิใช่หรือ เพราะจะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด