ลุ้น "มาตรการ" รองรับเปิดเรียนเทอม2 1 พฤศจิกายนนี้
ไม่เลื่อนเปิดเทอม “ตรีนุช” ย้ำไม่บังคับรร. ต้องเปิดเรียนแบบOn Site พร้อมกัน 1 พ.ย. นี้ เฉพาะพื้นที่สีแดงเข้ม นักเรียนสลับวันมาเรียนได้ เผยกำลังประสานสธ.เพื่อวาง "มาตรการ" รองรับการ เปิดเรียนเทอม2
นับถอยหลัง เตรียมเปิดเรียนเต็มรูปแบบ หรือเปิดเรียนแบบOn Site พร้อมกับเปิดประเทศในวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน นี้ ล่าสุดมีความคืบหน้าจากกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเตรียม “มาตรการ” รองรับในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
วันที่ 19 ต.ค. 2564 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ในวันที่ 1 พฤศจิกายน นั้น ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กำลังอยู่ระหว่างการประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อวาง “มาตรการ” การเปิดเรียนในรูปแบบปกติ หรือเปิดเรียนแบบOn Site
เพราะเมื่อรัฐบาลประกาศเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน2564 สถานศึกษาก็มีการเปิดเรียนตามไปด้วยเช่นกัน
"แต่อยากทำความเข้าใจว่าการเปิดเรียนจะต้องอยู่ภายใต้มาตรการที่ปลอดภัยด้านสุขภาพของนักเรียนด้วย ซึ่งการเปิดเรียนอาจจะเปิดไม่พร้อมกันทั้งหมด หรือโรงเรียนบางพื้นที่อาจจัดสลับวันมาเรียน"รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า ส่วนการตรวจ ATK ขณะนี้อาจจะไม่นำมาเป็นตัวกำหนดหลักของการเปิดเรียนแล้ว แต่ประเด็นสำคัญคือนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนให้ครบโดสทุกคน
"เบื้องต้นข้อมูลการฉีดวัคซีนของนักเรียนประมาณ ร้อยละ 40 แล้ว โดยการตรวจ ATK อาจจะใช้เฉพาะโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงหรือมีการติดเชื้อในโรงเรียนเกิดขึ้น"รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
นางสาวตรีนุช กล่าวอีกว่า ทั้งนี้การจะเปิดเรียนได้หรือไม่คาดว่าจะมีกำหนด "มาตรการ" ว่าโรงเรียนใดมีอัตราการฉีดวัคซีนไปแล้วกี่เปอร์เซ็นบ้าง และโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้มนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาจะต้องฉีดวัคซีนไปแล้วกี่เปอร์เซนต์เช่นเดียวกัน
โดยการเปิดเรียนในรูปแบบปกติจะต้องดูบริบทความเหมาะสมตามสภาพพื้นที่ของโรงเรียนแต่ละแห่ง
ศธ.อาจจะกำหนดมาตรการกลางของการเปิดเรียนไว้ แต่จะต้องดูข้อปฎิบัตตามศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จังหวัดเชื่อมโยงไปด้วย ซึ่ง ศธ.วางแผนเผชิญเหตุของโรงเรียนเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว
นางสาวตรีนุช กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนอาจไม่ใช่คำตอบของการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ได้ทั้งหมด แต่เป็นการลดอาการรุนแรงของโรคเท่านั้น
"มาตรการที่ดีที่สุดคือ การเว้นระยะห่าง การสวมใส่หน้ากาอนามัยตลอดเวลา และการล้างมือทำความสะอาด"นางสาวตรีนุช กล่าวในที่สุด