ข่าว

"รมว.วธ." เผยข้อดีครม.เห็นชอบบันทึกความร่วมมือไทย-จีนด้านภาพยนตร์ฯ

"รมว.วธ." เผยข้อดีครม.เห็นชอบบันทึกความร่วมมือไทย-จีนด้านภาพยนตร์ฯ

19 ต.ค. 2564

"รมว.วธ." เผยข้อดีครม. เห็นชอบบันทึกความร่วมมือไทย-จีน ด้านภาพยนตร์และวีดิทัศน์หนุนตลาดอุตสาหกรรมบันเทิงไทยและจีนขยายตัวสูงขึ้น รองรับการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และ 5F ของรัฐบาล มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ กว่า 9,200 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม "รมว.วธ." เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ที่ประชุมครม.ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านภาพยนตร์ระหว่างทบวงกิจการภาพยนตร์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทย ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)เสนอ

 

ถือเป็นความตกลงครั้งแรกด้านภาพยนตร์และวีดิทัศน์ โดยทบวงกิจการภาพยนตร์ของประเทศจีนได้เสนอทำความตกลงด้านภาพยนตร์กับ วธ. โดยทั้งสองฝ่ายเห็นฟ้องร่วมกันในการจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกัน 

 

ซึ่งสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน แผนแม่บทยุทธศาสตร์เฉพาะ ยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560-2564) ในด้านการส่งเสริมความร่วมมือในการลงทุนระหว่างประเทศ

รวมถึงธุรกิจถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย แผนปฏิบัติการส่งเสริมความร่วมมือและขยายตลาดคอนเทนต์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน และการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งทุน 

 

"และเป็นแนวทางในการจัดทำบันทึกความเข้าใจเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศด้านสื่อบันเทิงสาขาอื่นๆ เช่น ละครโทรทัศน์ ซีรีส์ แอนิเมชัน เกม และดนตรี กับประเทศคู่เจรจาอื่นต่อไปในอนาคต" รมว.วธ. กล่าว 

 

ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของทั้งสองประเทศ  ได้มีช่องทางในการร่วมผลิต และเปิดตลาดภาพยนตร์ระหว่างกัน โดยเฉพาะตลาดภาพยนตร์ของจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพและกำลังซื้อขนาดใหญ่ของโลก โดยครม.อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยในบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้

นายอิทธิพล กล่าวต่อไปว่า สาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ มุ่งส่งเสริมให้เกิดการเผยแพร่แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านภาพยนตร์ระหว่างบุคลากรในอุตสาหกรรมและประชาชนของทั้งสองประเทศ ผ่านการจัดนิทรรศการหรือเทศกาลภาพยนตร์ไทยในประเทศจีนผ่านช่องทางต่าง ๆ 

 

เผยแพร่ภาพลักษณ์ความเป็นไทยตามสื่อบันเทิงในรูปภาพยนตร์แก่ผู้บริโภคของจีน และประชาชนของทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรม วิถีชีวิตระหว่างกันผ่านสื่อภาพยนตร์ 

 

อีกทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลอุตสาหกรรมตลอดจนข้อมูลที่ปรากฏในหอภาพยนตร์ของแต่ละประเทศ ทำให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมีข้อมูลอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของสองประเทศที่มีความเชื่อถือ สามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ดำเนินนโยบายและวางแผนทางธุรกิจ ที่จะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมฯ ในภาพรวม

 

นอกจากนี้ บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ทั้งสองฝ่ายยังมุ่งสนับสนุนให้มีการจัดทำความตกลงด้านการลงทุนผลิตภาพยนตร์ระหว่างรัฐบาลในอนาคตเพื่อประโยชน์แก่ภาคเอกชน ซึ่งส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ช่วยเพิ่มโอกาสให้เกิดผลงานภาพยนตร์ไทยในตลาดภาพยนตร์ของประเทศจีนมากขึ้น

 

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ วธ. ได้ดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Culture) การขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ BCG อุตสาหกรรมวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ หรือ 5F ของรัฐบาล และแผนปฏิบัติการส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้เกิดความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง 

 

"อาทิ การจัดเทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพมหานคร การแลกเปลี่ยนภาพยนตร์จีน-ไทย งานตลาดภาพยนตร์และโทรทัศน์นานาชาติฮ่องกง งานตลาดภาพยนตร์นานาชาตินครเซี่ยงไฮ้ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงปักกิ่ง และการจัดงานแสดงสินค้าลิขสิทธิ์นานาชาติแห่งฮ่องกง เป็นต้น ส่งผลดีต่อการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งมีมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 9,200 ล้านบาท" รมว.วธ.กล่าวในที่สุด