ข่าว

นายกฯ ย้ำ “ศบค.ส่วนหน้า” ไม่ใช่การรวบอำนาจ เป็นการ บูรณาการ

นายกฯ ย้ำ “ศบค.ส่วนหน้า” ไม่ใช่การรวบอำนาจ เป็นการ บูรณาการ

20 ต.ค. 2564

นายกฯ ย้ำ “ศบค.ส่วนหน้า” ไม่ใช่การรวบอำนาจ ทุกอย่างยังดำเนินการเหมือนเดิม ชี้ตั้ง บิ๊กเล็ก ทำหน้าที่บูรณาการการทำงาน ไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย การทำหน้าที่ของใคร

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 10 ประจำปี 2564 ก่อนเดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่จ.สิงห์บุรี โดยมี พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ  หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุม

 

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาสภากลาโหม และ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ไม่ได้เดินทางเข้ามาร่วมประชุมด้วย เนื่องจากติดภารกิจลงพื้นที่จ.กาญจนบุรี 

 

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมถึงการตั้ง"ศบค.ส่วนหน้า"ว่า ตนได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล(ศรชล.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ถึงการบริหารจัดการภาคใต้ เพื่อลดการสูญเสียรวมถึงการเยียวยา 

 

ทั้งนี้เน้นย้ำให้เฝ้าระวังเรื่องความปลอดภัยเพราะประเทศไทยมีปัญหาหลายด้านตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ตนเป็นผบ.ทบ.และรองผอ.รมน.สนับสนุนเรื่องเหล่านี้มาตลอดเพราะเป็นกลไกของทุกรัฐบาล หน่วยงานเหล่านี้จะต้องไปเสริมการปฏิบัติงานของกระทรวงอื่น ๆ ด้วย เช่น ทหารที่ทำหน้าที่ป้องกันการลักลอบตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันการระบาดโควิด-19 ด้วยการประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน จึงฝากความเห็นใจ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารตามแนวชายแดน

 


 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วน "ศบค.ส่วนหน้า" ทางประชาชนก็ให้ความร่วมมือ ยืนยันว่าไม่ใช่การรวบอำนาจ ทุกอย่างยังดำเนินการเหมือนเดิม โดยพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกฯ และ "ผอ.ศบค.ส่วนหน้า" ลงไปทำหน้าที่เพียงแค่บูรณาการการทำงาน เพราะเรามีกฎหมายในการทำงานอยู่แล้ว ความจริงไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายการทำหน้าที่ของใครเพียงแต่เข้าไปดูแลให้เกิดความทั่วถึงในเรื่องการสกัดกั้นการแพร่ระบาดโควิด-19

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นั้น ต้องย้ำว่ายังมีอีกหลายประเทศที่เราจะประกาศออกไป เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ดำเนินการการที่จะเข้ามาไทยไม่ได้ หมายความว่าทุกประเทศจะเข้ามาได้ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับการหารือร่วมกันระหว่างประเทศต้นทางและปลายทางว่ามาตรการที่เรากำหนดไปเขาตกลงด้วยหรือไม่ ถ้าไม่ตกลงด้วยเขาก็ไม่เข้ามาอยู่แล้ว

 

ครั้งแรกอาจจะให้เข้ามาได้ไม่กี่ประเทศ หรืออาจจะหลายประเทศ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับมาตรการของเรา ที่ต้องนำไปเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ที่มีการประกาศเช่นเดียวกับเรา อย่างไรก็ตามเราจำเป็นต้องอยู่กับโควิด-19 ให้ได้เศรษฐกิจจะได้ดีขึ้น สมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามมาตรการของเราอย่างเคร่งครัด ถ้าเปิดแล้วเกิดมีปัญหาก็ต้องปิด ซึ่งเราก็ไม่อยากปิดทั้งหมด เพราะประชาชนเดือดร้อน แม้จะมีการเยียวยาก็ไม่เพียงพอ แต่เพื่อให้ดำรงชีพอยู่ได้

 

ส่วนปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคได้มีการพูดคุยกันในที่ประชุมสภากลาโหม เพราะมีความขัดแย้งหลายพื้นที่ใกล้กับประเทศเรา ทั้งนี้เราต้องดำรงความเป็นศูนย์กลางของอาเซียนให้ได้ เพื่อความเป็นกลางและสร้างสมดุล เพราะมีทั้งประเทศมหาอำนาจ ประเทศขนาดกลางจะขยายอิทธิพลเข้ามาในภูมิภาคอาเซียนแล้วเราต้องเป็นแกนกลางอาเซียนให้ได้ทั้งเรื่องการค้า เศรษฐกิจ การค้าเสรีที่เป็นหลักการสากล