ข่าว

วินทร์ เลียววาริณ กระตุกต่อมคิดประวัติศาสตร์ "พระเกี้ยว" อย่าเนรคุณ

วินทร์ เลียววาริณ กระตุกต่อมคิดประวัติศาสตร์ "พระเกี้ยว" อย่าเนรคุณ

24 ต.ค. 2564

วินทร์ เลียววาริณ กวีซีไรต์ กระตุกต่อมคิดเข้าใจประวัติศาสตร์ให้ถ่องแท้ สัญลักษณ์พระเกี้ยว คือสัญลักษณ์แห่งความรู้และกตัญญู หากไม่ทดแทนอย่างน้อยก็ไม่เนรคุณ

วินทร์  เลียววาริณ  เป็นศิษย์เก่าจุฬาฯอีกท่านหนึ่ง ที่ออกมาสะท้อนมุมมองให้สังคมได้ฉุกคิด กับความพยายามของคนบางกลุ่ม ที่กำลังสร้างประวัติศาสตร์ผิดเพี้ยนกับสัญลักษณ์ "พระเกี้ยว"  จนถึงขนาดที่ องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ(อบจ.) โพสต์แถลงการณ์ เรื่อง ยกเลิกกิจกรรมขบวน"อัญเชิญพระเกี้ยว"ในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา 

 

ทั้งนี้ วินทร์  เลียววาริณ  ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ และนักเขียนรางวัลซีไรต์ กว่าประสบความสำเร็จมาถึงวันนี้เพราะการได้ร่ำเรียนในรั้วจามจุรี อันมี"ตราพระเกี้ยว" ให้รำลึกถึงด้วยความกตัญญูธิคุณ 

 

เมื่อวันที่ 24  ตุลาคม 2564   วินทร์ เลียวาริณ ได้ถ่ายทอดข้อเขียนลงเพจ วินทร์ เลียววาริณ  ไว้ให้ทุกฝ่ายได้กลับมาตั้งสติคิด จนมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์บทความดังกล่าวออกไปจำนวนมาก 

 

"กวีซีไรท์" ท่านนี้ เริ่มต้นว่า  จอร์จ ออร์เวลล์ (ผู้เขียน 1984, Animal Farm) เขียนว่า "The most effective way to destroy people is to deny and obliterate their own understanding of their history."

 

แปลว่า ทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการทำลายประชาชน คือปฏิเสธและกวาดทิ้งความเข้าใจของพวกเขาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของพวกเขาเอง

 

ช่วงหลังนี้ผมได้ยินข่าวเกี่ยวกับจุฬาฯหลายเรื่องซึ่งชวนอึดอัด ทั้งหมดฟังดูดี มีหลักการ ใช้คำพูดสวยหรู แต่อ่านระหว่างบรรทัดแล้ว ก็อดไม่ได้ต้องคิดว่ามันเป็นการ 'ตีวัวกระทบคราด' และ 'โยนหินถามทาง' และ 'กวาดทิ้งความเข้าใจ' ตามคำของ จอร์จ ออร์เวลล์ ข้างต้นหรือไม่

 

ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด เข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพฯในชั้น ม.ศ. 4 ที่โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เช่นเดียวกับโรงเรียนทั่วไป เครื่องแบบนักเรียนปักอักษรย่อ บ.ด. บนหน้าอก แต่ต่างจากโรงเรียนส่วนใหญ่ เรากลัดตราสีทองชิ้นหนึ่งเหนืออักษรย่อ

เข็มกลัดนั้นเรียกว่า พระเกี้ยว

 

หลังจากเรียนจบ ม.ศ. 5 ผมมีโอกาสเข้าเรียนในสถาบันที่ใช้ตราพระเกี้ยวอีกครั้ง คือจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย (ในสมัยผมเข้าเรียน ไม่มีการันต์เหนือ ณ) คราวนี้พบว่าเน็กไทที่เด็กปี 1 ใส่ปักตราพระเกี้ยว ชุดนิสิตหญิงก็มีตรานี้เช่นกัน ทั้งที่กลัดบนเสื้อและหัวเข็มขัด

 

พระเกี้ยวคืออะไรกันแน่?

 

พระเกี้ยวหรือจุลมงกุฎเป็นสัญลักษณ์และพิจิตรเลขาประจำรัชกาลในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มันมีความเชื่อมต่อกับรัชกาลที่ 4 ด้วย

 

เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยทั่วโลกซึ่งล้วนใช้ตราที่มีความหมาย จุฬาฯก็เช่นกัน ในเมื่อรัชกาลที่ 5 ทรงริเริ่มโครงการสร้างมหาวิทยาลัยแห่งนี้ พระนามของพระองค์ก็เป็นที่มาของนามมหาวิทยาลัย และใช้สัญลักษณ์พระเกี้ยวประจำมหาวิทยาลัย

 

ย้ำ - สัญลักษณ์พระเกี้ยว ไม่ใช่ว่าวจุฬาฯ

 

สถาบันการศึกษาต่างๆ ที่มีรากฐานเดียวกันนี้ ล้วนใช้ตราพระเกี้ยว ไม่ว่าจะเป็นจุฬาฯ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา บดินทรเดชาฯ หอวัง และอีกหลายๆ โรงเรียน

 

วินทร์ เลียววาริณ กระตุกต่อมคิดประวัติศาสตร์ \"พระเกี้ยว\" อย่าเนรคุณ

 

พระเกี้ยวก็คือที่ระลึกชิ้นเล็กๆ ที่เชื่อมนักเรียนและนิสิตกับพระองค์

 

มันเป็นรากของเรา

 

เมื่อเข้าใจประวัติศาสตร์ที่มา ก็จะรู้ว่าพระเกี้ยวไม่ใช่และไม่เคยเป็นสัญลักษณ์ของความไม่เสมอภาค ตรงกันข้าม มันเป็นสัญลักษณ์ของความเสมอภาคทางการศึกษา ไม่ว่าคนฐานะใดก็ได้เล่าเรียนเท่ากัน มันยังเป็นสัญลักษณ์ของผู้ริเริ่มสร้างมหาวิทยาลัย มันเป็นสัญลักษณ์ของความรู้ และมันเป็นสัญลักษณ์ของความกตัญญู

 

ชาวจุฬาฯไม่ว่ารุ่นไหน อย่าลืมเป็นอันขาดว่าปราศจากเจ้าของตราพระเกี้ยวนี้ ก็ไม่มีเรา ไม่มีเราก็ไม่มีอนาคตของเรา

 

ใครก็ตามที่ชอบอ้างถึงอนาคตที่ดีกว่าโดยละทิ้งอดีต พึงสำนึกเสมอว่าอนาคตที่ไร้รากแห่งอดีตก็เหมือนคนที่ไร้เงา "ปฏิเสธและกวาดทิ้งความเข้าใจของพวกเขาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของพวกเขาเอง"

 

คุณค่าของมนุษย์เราอยู่ที่ความกตัญญูกตเวทิตา มีคุณให้ทดแทน และหากไม่ทดแทน อย่างน้อยก็ไม่เนรคุณ

 

วินทร์ เลียววาริณ

รากปี 2516

24 ตุลาคม 2564