"เสือภูเขาทางเรียบ-ปั่นเพื่อชีวิต" สนามตัดสินแชมป์ ยอดสมัครแตะ 500 คน
สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ร่วมกับจังหวัดเพชรบุรี และธนาคารออมสิน ระเบิดศึกรายการปั่น "เสือภูเขาทางเรียบ-ปั่นเพื่อชีวิต" 30-31 ตุลาคมนี้ โดยจะเป็นสนามในการตัดสินแชมป์ประจำปี รองผู้ว่าเพชรบุรี หวังให้เป็นกิจกรรมที่ช่วยฟื้นบรรยากาศทางเศษฐกิจให้กับจังหวัด
สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ จังหวัดเพชรบุรี และ ธนาคารออมสิน จะจัดการแข่งขัน จักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และการแข่งขันจักรยาน "ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All " ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2564 สนามที่ 3 ที่เขื่อนแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ระหว่างวันที่ 30-31 ตุลาคม ทั้งนี้"เสือภูเขาทางเรียบ-ปั่นเพื่อชีวิต" ได้รับการตอบรับด้วยดี โดยมียอดผู้สมัครแล้วกว่า 500 คน
เอกรัตน์ นาคาคง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า การที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ จัดการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และ "ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4All" : "เสือภูเขาทางเรียบ-ปั่นเพื่อชีวิต" สนามสุดท้าย จะเกิดประโยชน์ให้กับพื้นที่ ทำให้จังหวัดเพชรบุรีเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น สร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวภายในพื้นที่ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจที่ซบเซากลับมาคึกคักอีกครั้ง
เมธี จงอุดมชัยกิจ นักปั่นเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) รุ่น 90 กิโลกรัมขึ้นไป อายุ 35 ปีขึ้นไปชาย จากชมรมรับส่งตะวัน อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยว่า จะร่วมการแข่งขันสนามที่ 3 ที่เขื่อนแก่งกระจาน อย่างแน่นอน เนื่องจากมีคะแนนจาก 2 สนามรวมกันเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 34 คะแนน มีโอกาสคว้าแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2564 มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์การแข่งขันประจำปีนี้ เมธี ระบุ
ทั้งนี้ นักกีฬาที่ต้องการสมัครเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และการแข่งขันจักรยาน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ชิงถ้วยพระราชทานฯ สนามที่ 3 สามารถเข้าไปสมัครได้ที่ www.thaicycling.or.th (ไม่มีการรับสมัครที่บริเวณสนามแข่งขัน) กำหนดปิดรับสมัครวันที่ 27 ตุลาคม เวลา 24.00 น.
นอกจากนี้นักปั่นและเจ้าหน้าที่ประจำทีมทุกคนจะต้องเตรียมชุดตรวจ ATK เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรีและฝ่ายแพทย์ของสมาคมฯ ทำการตรวจก่อนรับหมายเลขประจำตัว มิฉะนั้นอาจทำให้เสียสิทธิ์ในการแข่งขันได้