"ปคบ." ลุยจับหนุ่มโพสต์เฟซบุ๊ก ขาย "บุหรี่ไฟฟ้า" น้ำยา ผ่านทางออนไลน์
ตำรวจ ปคบ.จับหนุ่มโพสต์เฟซบุ๊ก ขายบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยา ยึดของกลางจำนวนมาก ขณะที่ก่อนหน้าที่ รม.ดีอีเอส สั่งเร่งศึกษา หวังดึงเข้าระบบปิดช่องทางลอบนำเข้า
ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) โดย พ.ต.ท.ธีรภพ พันธุชาติ สว.กก.1 บก.ปคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ ชป.5 กก.1 บก.ปคบ. จับกุม นายจัตุรงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี หลังตรวจสอบว่ามีการโพสต์เฟซบุ๊กบัญชีชื่อ Marisa Melon ประกาศเชิญชวนให้บุคคลทั่วไปสั่งซื้อผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. จึงได้วางแผนให้สายลับติดต่อล่อซื้อ ก่อนจะนัดส่งของกันที่กลางซอยลาดพร้าว 122 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม.
ต่อมา ตามเวลาและสถานที่นัดหมายมีนายจัตุรงค์ เดินทางมาพร้อมของกลางผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า รวม 4 รายการ มูลค่าประมาณ 100,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.5 ที่รออยู่แสดงตัวเข้าควบคุมตัวตรวจค้นและยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนแจ้งว่าการขายสินค้าดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้า หรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า ผู้ใดขายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่ง พงส.กก.1 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ดีอีเอส. เปิดเผยภายหลัง ตัวแทนภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย ตัวแทนกลุ่ม ECST ผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า และแอดมินเพจเฟซบุ๊กมนุษย์ควัน เข้าพบ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และหารือหารือแนวทางผลักดันบุหรี่ไฟฟ้าให้เป็นสินค้าที่จำหน่ายได้ตามกฎหมาย จะช่วยเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบมีช่องทางรายได้ใหม่จากการป้อนผลผลิตให้โรงงานผลิตบุหรี่ไฟฟ้า อีกทั้งปิดช่องภาษีรั่วไหลจากการลักลอบนำเข้า
ขณะที่ ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ระบุว่า "องค์การอนามัยโลกรายงานการสำรวจการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กนักเรียนไทยในโรงเรียน อายุ 13 -15 ปี 2563 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจระดับโลก พบว่า อัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าของนักเรียนไทยในเดือนก่อนการสำรวจ เท่ากับ 7.7% เพิ่มขึ้นจากการสำรวจเมื่อปี 2558 ที่อัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอยู่ที่ 3.5% เป็นการเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวภายในเวลา 5 ปี”
นพ.จตุภัทร คุณสงค์ จิตแพทย์ประจำศูนย์จิตรักษ์กรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์สูบบุหรี่ชนิดหนึ่งซึ่งใช้กลไกไฟฟ้าทำให้เกิดความร้อนและไอน้ำที่ประกอบไปด้วยสารเคมีต่างๆ โดยไม่มีควันจากกระบวนการเผาไหม้เหมือนบุหรี่ปกติทั่วไป จากการวิจัยพบว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่นโรคหัวใจ เกิดการเปลี่ยนแปลงของ DNA ในเซลล์ปอด หัวใจ และกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง บุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคติน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดการเสพติด ดังนั้นการสูบบุหรี่ไฟฟ้าจึงทำให้ผู้สูบ “ติด” ได้ไม่ต่างจากบุหรี่ธรรมดา นอกจากนี้รูปแบบ ขั้นตอนในการสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็มีความใกล้เคียงกับการสูบบุหรี่ธรรมดามาก ทำให้ผู้สูบยังคง “ติด” ในพฤติกรรมการสูบเหมือนบุหรี่ธรรมดา
ด้าน นายอาสา ศาลิคุปต และนายมาริษ กรัณยวัฒน์ เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “กลุ่มลาขาดควันยาสูบ” แอดมินเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” เปิดเผยว่า ผู้เชี่ยวชาญอิสระที่ทำงานด้านการวิจัยและพัฒนานโยบายเกี่ยวกับยาสูบกว่า 100 คน กำลังมีความกังวลเกี่ยวกับจุดยืนขององค์การอนามัยโลกหรือ WHO ที่ยังคงมองข้ามศักยภาพของบุหรี่ไฟฟ้าในการช่วยให้ผู้สูบบุหรี่ลดอันตรายจากการสูบบุหรี่ จึงได้ร่วมกันลงชื่อเพื่อเรียกร้องให้ WHO สนับสนุนและรวมเอาหลักการลดอันตราย (Harm Reduction) เข้าไปไว้ในกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบด้วย