กรณีแม่ "ตีลูกจนไม้หัก" จนท.ประเมินสภาพจิตใจ พบเครียดทั้งแม่ทั้งลูก | คมชัดลึก

จากกรณีที่ทวิตเตอร์ของ เจ๊ม้อย v plus ได้เผยแพร่คลิป แม่ลูกคู่หนึ่งที่จังหวัดชัยนาท  แม่ได้ใช้ไม้ตีลูกจนไม้หัก และเมื่อภาพได้ถูกเผยแพร่ออกไป มีกระแสวิพากวิจารณ์รุนแรง จนทำให้ทั้งแม่ทั้งลูกตกอยู่ในสภาพเครียดจัด ล่าสุดบ้านพักเด็กและครอบครัวชัยนาท ลงพื้นที่ประเมินสภาพจิตใจทั้งครอบครัว

ผู้สื่อข่าวคมชัดลึกเองก็ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของครอบครัวนี้เช่นกัน ที่ ม.8 ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท จากการพูดคุยกับ น.ส.เอ (นามสมมุติ) แม่เด็ก น.ส.เอ เล่าว่า มีลูก 2 คน คนโตอายุ 9 ขวบ คนเล็ก 8 ขวบ เป็นลูกสาวทั้งคู่ โดยลูกสาวคนโตชอบหนีเที่ยวเป็นประจำ จึงเป็นห่วงมากเพราะเริ่มเป็นสาว เคยห้ามหลายครั้งแต่เขาไม่ฟัง

ก่อนที่จะลงมือได้เตือนลูก 2-3 ครั้งแล้ว ซึ่งก่อนหน้านั้นทำงานอยู่ นายจ้างบอกให้ไปดูลูกหน่อย จึงทิ้งงานไปดูลูก บอกให้เขากลับบ้าน แต่กลับวิ่งหนี ขู่ว่าถ้าไม่กลับจะเรียกครูมาดู แต่ก็เฉย เขาดื้อ จึงหาไม้มาตี ซึ่งเป็นไม้ผุแล้ว ไม้จึงได้หักง่าย ก่อนหน้านี้ไม่เคยตีเขามาก่อน พยายามเตือนลูกตลอด ไม่อยากให้ออกจากบ้านเพราะคนติดยาเยอะ สำหรับคลิปที่ออกไปได้ขอร้องคนถ่ายแล้ว ว่าอย่าเอาไปลงข่าวเลย เพราะตนเองเสียหาย ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว ออกไปทำงานทุกวัน  ไม่มีใครช่วยดูแล  แม่กลัวลูกโดนล่วงละเมิดทางเพศ    

ทางเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยนาท และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ไปประเมินสภาพจิตใจทั้งครอบครัว พร้อมทั้งทำบันทึกข้อตกลงในการเลี้ยงดูลูก นางวาริน  วีระสุนทร  หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า แม่เด็กมีอาการเครียดจัดทั้งเรื่องที่เป็นข่าวดัง รวมทั้งเรื่องของการดูแลลูก  เพราะบางทีเด็กออกหนีเที่ยว กลับมาตีหนึ่งตีสอง  

ทางเจ้าหน้าที่จึงทำความเข้าใจกับแม่เด็กว่า ปัจจุบันมี พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 แม่ไม่สามารถที่จะตีลูกด้วยความรุนแรงขนาดนี้อีก และได้มีการทำบันทึกข้อตกลงในเรื่องของการเลี้ยงดู ทีมของสหวิชาชีพ นักจิตวิทยา สาธารณสุข จะเข้ามาฟื้นฟูเยียวยาสภาพจิตใจของเด็ก และแม่ด้วย เพราะเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตัวแม่เด็กเองก็เคยถูกคุกคามเรื่องของครอบครัว มีการกระทำรุนแรงในครอบครัวมาก่อน  อาจมีผลจากการถูกทำร้ายจิตใจ  ปัจจุบันอยู่ในสภาวะครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว ซึ่งเขาต้องเลี้ยงดูลูกตามลำพัง และทำงานรับจ้างที่คาแคร์ บางครั้งต้องปล่อยให้ลูกต้องอยู่ตามลำพัง เป็นสิ่งที่ทำให้เขากังวล

ทางเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยนาท จะให้โอกาสเขาดูแลลูกต่อไปเรายังไม่มีแผนที่จะแยกลูก เราเข้าใจว่าแม่ทุกคนรักลูก แต่เขาต้องมีวิธีการปรับเปลี่ยนวิธีการในการดูแลและเลี้ยงลูก โดยให้ระยะเวลา 3 เดือน หลังจากนั้นจะมีการลงมาประเมินว่าเขามีความพร้อมที่จะเลี้ยงลูกต่อไปหรือไม่  หากไม่พร้อมจำเป็นจะต้องแยกเด็กเพื่อเข้ารับการคุ้มครองในอนาคต  ส่วนของแม่เองต้องเข้ารับการบำบัดด้านสภาพจิตใจเช่นกัน  เพราะมีภาวะเครียดและเสี่ยงการฆ่าตัวตาย  

ข่าว/ภาพ วรชล ฟักขาว ผู้สื่อข่าว คมชัดลึก จ.ชัยนาท