ข่าว

"พระมหาไพรวัลย์" ยืนยัน "สึก" หากพระราชปัญญาสุธี ไม่ได้รับความเป็นธรรม

"พระมหาไพรวัลย์" ยืนยัน "สึก" หากพระราชปัญญาสุธี ไม่ได้รับความเป็นธรรม

30 ต.ค. 2564

"พระมหาไพรวัลย์" ยืนยัน "สึก" หากพระราชปัญญาสุธี รักษาการเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ไม่ได้รับความเป็นธรรม ชี้ วงการสงฆ์ต้องสะอาด ทั้งนี้เป็นความสมัครใจลาสิกขาเอง ไม่ได้ถูกกดดัน

พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักเทศน์ชื่อดัง เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่วัดสร้อยทอง กรณีไลฟ์สดเมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าจะสละสมณเพศหาก พระราชปัญญาสุธี (อุทัย ญาโณทโย) ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ไม่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นเจ้าอาวาส โดยเปิดเผยว่า

กรณีดังกล่าวนั้นมีกระแสในสังคมสงฆ์พูดกันในวงกว้าง เป็นข่าวที่พูดกันภายใน แต่เอกสารยังไม่ออกมา ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องนี้ควรโปร่งใส ไม่ว่าจะมีมติทางใดก็ต้องหยิบขึ้นมาพูดได้ ไม่ใช่พูดกันในที่ลับ สังคมสงฆ์ต้องสะอาด ส่วนตัวจึงจำเป็นต้องพูดให้ชัด ให้ญาติโยมที่ติดตามเพจได้รู้เจตนารมย์ว่า ถ้าเกิดความไม่เป็นธรรมตามที่กังวลนี้เกิดขึ้นจริง ก็จะลาสิกขาตามที่พูด เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วย ซึ่งอาจไม่ได้มีผลใด ๆ ตามมาเลย เพราะไม่ใช่พระสังฆาธิการ ไม่มีตำแหน่งทางปกครอง มีเพียงตำแหน่งพระลูกวัดสร้อยทองและพระภิกษุ ก็ต้องใช้สองสิ่งนี้ประท้วง ว่าไม่ขออยู่ภายใต้ความไม่เป็นธรรมอีกต่อไป

\"พระมหาไพรวัลย์\" ยืนยัน \"สึก\" หากพระราชปัญญาสุธี ไม่ได้รับความเป็นธรรม

 

พระมหาไพรวัลย์ กล่าวถึงกรณีมีผู้แนะนำให้ย้ายวัดว่า ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหากับวัด แต่มีปัญหากับระบบ กับการปกครอง กับโครงสร้างคณะสงฆ์ที่ไม่เป็นธรรมมากเกินไป ที่มาจากเรื่องนั้นเรื่องนี้จนกระทั่งลามมาถึงวัด ทั้งที่คณะสงฆ์ควรเป็นต้นแบบของความดีงาม ถ้าวงการสงฆ์ยังหาความดีงามไม่ได้ เป็นต้นแบบของมโนธรรมสำนึกไม่ได้ ก็คงจบแล้ว ทั้งนี้ไม่ใช่การกล่าวอ้างแต่ตนเองมีเห็นอย่างนี้จริง ถ้าใครจะเห็นว่าเป็นธรรมก็ถือเป็นความเห็นของคนนั้น แม้เรื่องนี้ยังไม่มีเอกสารออกมา ก็อยากให้นำเรื่องนี้มาพูดในที่สาธารณะ

ทั้งนี้ประเด็นการไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง มาพร้อมกับประเด็นการไลฟ์สดของตนเองและพระมหาสมสอง ขอยืนยันว่าพระอาจารย์ท่านเป็นพระที่ดีมาก แทบไม่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อใด ๆ เลย ไม่เคยปกป้องหรือพูดชมเชย ท่านให้พื้นที่ว่าดีหรือไม่ดีก็ให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ ท่านยังให้คำแนะนำด้วยซ้ำว่า อะไรที่ถูกตำหนิว่าไม่ดีแล้วสิ่งนั้นเป็นประโยชน์ก็ปรับปรุงแก้ไข ท่านไม่ใช้อำนาจ หากไม่มีเรื่องทางพระวินัย ความไม่เหมาะสมเพียงแค่หัวเราะ จะให้ท่านใช้อำนาจเจ้าอาวาสจัดการตนเองหรือ เมื่อวันออกพรรษาท่านสอนลูกศิษย์ในวัดและพูดอย่างชัดเจนว่า ไม่ว่าใครจะได้เป็นเจ้าอาวาส ขอให้ทุกคนยอมรับตามนั้น อย่าให้สัมภาษณ์กับสื่อในทำนองติงพระผู้ใหญ่ ให้เป็นดุลยพินิจของฝ่ายปกครอง ท่านไม่ได้ยึดติด ใครเป็นก็ได้เพียงขอให้ช่วยกันดูแลวัด รักษาวัด ท่านก็จะทำหน้าที่สอนหนังสือ ทำวัตร ต่อไป

พระมหาไพรวัลย์ ยังตอบคำถามสื่อมวลชนว่าถ้าสุดท้ายแล้ว พระราชปัญญาสุธี ได้รับแต่งตั้งจะเป็นอย่างไร ว่าไม่ขอตอบโผจะพลิกหรือไม่พลิก ขอพูดเพียงเจตนารมย์ที่อยากบอกผ่านสื่อถึงญาติโยมว่า หากสิ่งที่กังวลเกิดขึ้นจริงก็จะลาสิกขา ซึ่งมาจากความสมัครใจของตนเอง ไม่ได้ถูกกดดัน เพียงรู้สึกว่าถ้าไม่สามารถปกป้องครูบาอาจารย์ได้ หรืออีกนัยยะคือเราเป็นต้นเหตุให้ครูบาอาจารย์ต้องได้รับภัยที่ไม่ควรได้รับ ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบ   

พระมหาไพรวัลย์ กล่าวด้วยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากระบบที่เอื้อให้เกิดความไม่เป็นธรรม ซึ่งควรได้รับการแก้ไข แต่ตอนนี้เมื่อเราอยู่ไม่ได้ก็ต้องไป และหากออกไปจริงก็จะแสดงความเห็นได้ชัดขึ้น ลึกขึ้น เพราะไม่ต้องกลัวถูกจับสึก สำหรับการดำเนินชีวิตหากสึกจริงก็ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหนชีวิตก็มีคุณค่าทั้งนั้น ไม่เคยกังวลว่าไม่เป็นพระ ไม่มีคนกราบไหว้ แล้วจะเป็นอย่างไร ประโยคเก้าที่เรียนมานั้นไม่สูญเปล่าแน่นอน 

หรือถ้าวัดสร้อยทองมีเจ้าอาวาสที่มาโดยธรรม ตามที่พระภิกษุ สามเณรในวัด เห็นสมควรยกย่อง เพราะแต่ละวัดจะรู้ว่าพระรูปไหนมีความเป็นภันเต เป็นรัตตัญญู ท่านอยู่มาก่อน ท่านดูแลรักษาวัด เป็นผู้อยู่มานานใสอารามนั้น ตามครรลองภิกษุรูปนั้นก็ควรได้เป็นเจ้าอาวาสต่อไป ถ้าเป็นแบบนั้นโดยธรรมตนเองอาจจะอยู่ก็ได้ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวพร้อมรับทุกมติไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ยืนยันจะปฏิบัติตามที่พูดไว้ แม้พระอาจารย์จะขอไม่ให้ลาสิกขา ก็คงไม่อยู่ เพราะตัดสินใจแล้ว ถ้าท่านไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ขอไปรับใช้ท่านในบทบาทอื่น

สุดท้ายพระมหาไพรวัลย์กล่าวถึงโยมมารดาว่า ความจริงก็ไม่อยากให้สึก แต่ท่านก็ใจกว้างถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริง ตนเองเป็นลูกคนเดียว ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้คิดอยากลาสิกขา เพราะแม่ป่วยเป็นมะเร็งด้วย