รับพลังสุริยะ 3 แผ่นดิน แสงแรก ที่ "ผามออีแดง" จ.ศรีสะเกษ
การมารับพลังสุริยะ 3 แผ่นดิน เชื่อกันว่าพลังแสงแรกของเช้าวันใหม่ จะช่วยเติมเต็มให้ผู้ที่ได้รับพลังสุริยะได้มีพลัง โชคดีมีชัย
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผูว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษ และคณะ เดินทางมา สำรวจความพร้อมที่จะเปิดผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร รับนักท่องเที่ยว 1 พ.ย.นี้
ผามออีแดง เป็นหน้าผาสูงชันกั้นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ตลอดแนวผามออีแดง มีระยะทางยาวประมาณ 500 เมตร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นทัศนียภาพฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน สามารถมองเห็นความสวยงามของปราสาทพระวิหารด้วยตาเปล่าค่อนข้างชัดเจน
ยังมีภาพแกะสลักหินนูนต่ำ บนหน้าผาหินทราย อายุประมาณ 1,500 ปี เป็นภาพเทพ 3 องค์ สร้างขึ้นก่อนปราสาทเขาพระวิหาร ราวกลางศตวรรษที่ 11 ซึ่งถูกประกาศให้เป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์ พร้อมทั้งจะได้ชมสถูปคู่ ทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ สร้างจากหินทราย ถือเป็นสิ่งก่อสร้างพิเศษ นอกจากนี้ในช่วงค่ำ นักท่องเที่ยวจะได้ชมดาวล้านดวง ที่เนินนับดาว แหล่งเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า การปิดเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้มีการปรับปรุง และตอนนี้ธรรมชาติบริเวณผามออีแดง ถือว่ามีความสวยงามมาก
ช่วงเช้าตื่นขึ้นมารอรับพลังพระอาทิตย์ขึ้น 3 แผ่นดิน ขึ้นจากประเทศลาว มาถึงประเทศไทย และลงไปถึงกัมพูชา ตรงจุดนี้ถือว่าเป็นการมารับพลังสุริยะ 3 แผ่นดิน ซึ่งมีความเชื่อกันว่าการได้มารับพลังสุริยะจากแสงแรกของเช้าวันใหม่ จะช่วยเติมเต็มให้ผู้ที่ได้รับพลังสุริยะได้มีพลัง โชคดีมีชัย และกำลังใจที่จะมุ่งมั่นในการทำกิจการงานเต็มที่
หากมาในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะได้สัมผัสกับ หมอกที่สวยงาม และวันที่มีฝนตก ก็ยิ่งจะเห็นหมอกชัดเจนมากขึ้น
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวด้วยว่า จ.ศรีสะเกษ มีความพร้อมในการที่จะเปิดผามออีแดงแล้ว ซึ่งทางอำเภอกันทรลักษ์ ร่วมกับอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร วางมาตรการสอดคล้องกับมาตรการของ ศบค.และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นการจำกัดจำนวนคน
เช่น จะไม่ให้มารวมตัวกันมากๆ ช่วงคาบของการท่องเที่ยว 2 - 3 ชั่วโมงในแต่ละรอบ จะมีคนได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาท่องเที่ยวที่ผามออีแดงประมาณ 600 คน เฉลี่ยเป็นผลัด ๆ กันไป และจะไม่ให้นักท่องเที่ยว มารอหนาแน่นบริเวณทางขึ้น มีการวางระบบการจองล่วงหน้า ผ่านระบบต่าง ๆ ของทางอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร
เรื่องของการเข้าพักโดยทั่วไป ตอนนี้ก็ยังงดให้เข้าพักในเขตอุทยาน แต่ว่าจะอนุญาตให้จอง เพื่อให้เข้าพักในลักษณะของเต็นท์ของอุทยาน แต่เพียงคืนละ 30 คนเท่านั้น ในช่วงแรกนี้จะทดสอบมาตรการในเรื่องนี้ และในอนาคตต่อไป ทางอุทยานก็อาจจะมีการเพิ่มจำนวนคนมากขึ้น
ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่จะต้องปฏิบัติร่วมกัน ก็คือการเฝ้าระวังส่วนตัว ตามมาตรการทางสาธารณสุขต่างๆ และการฉีดวัคซีน ที่เป็นมาตรการหลักของแหล่งท่องเที่ยวทั่วไป ในส่วนของฝั่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ก็ได้มีการฉีดวัคซีนทุกคนแล้ว
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ. ศรีสะเกษ