กูรูฟุตบอลให้คะแนน "ทีมชาติไทย U23" ผ่านเฉียดฉิว
"ไพบูลย์ เลิศวิมลรัตน์" กูรูฟุตบอลจากเอเอฟซี ให้คะแนน "ทีมชาติไทย U23" ที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศอุซเบกิสถาน ในฐานะทีมที่ 2 ของสาย โดยให้คะแนนที่ 6.5 จากเต็ม 10 ชี้มีการบ้านที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยต้องนำไปทบทวน
"ไพบูลย์ เลิศวิมลรัตน์" วิทยากรฝึกอบรมฟุตบอล ที่ผ่านการรับรองจากสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ( เอเอฟซี ) ให้สัมภาษณ์กับ "คมชัดลึก" ว่า จากการประเมินผลงานฟุตบอล ทีมชาติไทย" รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี "ทีมชาติไทย U23" ซึ่งเข้าร่วมร่วมแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่ต่ำกว่า 23 ปี รอบคัดเลือก ที่ประเทศมองโกเลีย ระหว่างวันที่ 21-31 ตุลาคม
โดยส่วนตัวแล้วให้คะแนน " ทีมชาติไทย U23 " ที่ 6.5 จากคะแนนเต็ม 10 หรือเท่ากับว่าเป็นคะแนนที่ผ่าน ทั้งนี้เกณฑ์ดังกล่าวมาจากการประเมิน ผลงานตลอดทัวร์นาเมนต์นี้ 3 นัดที่ลงแข่ ซึ่งเป็นการเสมอ 2 ชนะ 1 ส่งให้ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย สามารถผ่านเข้าสู่ การแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย ที่ประเทศอุซเบกิสถาน ในฐานะทีมที่ 2 ของสาย ที่
ไพบูลย์ เลิศวิมลรัตน์ กล่าวว่า ในรอบคัดเลือก ทีมชาติไทยอยู่ในกลุ่ม เจ ประกอบไปด้วย มองโกเลีย (เจ้าภาพ) , ลาว และ มาเลเซีย ซึ่งถือว่าการทำผลงาน ชนะ 1 เสมอ 2 เก็บได้ 5 คะแนน และสามารถผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่ทีมชาติไทยน่าจะทำได้ดีขึ้นไปอีก กับการถูกมองว่าเป็นทีมเต็งของกลุ่ม แต่กระนั้น หน้างานหรือสถานการณ์จริง ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งสภาพอากาศ สนามการแข่งขันที่เป็นหญ้าเทียม การเก็บตัวฝึกซ้อม เป็นต้น ปัจจัยเหล่านี้มีผลมาถึงการทำผลงานในสนามไม่มากก็น้อย
ขณะเดียวกันเห็นว่า 5 วัน สำหรับการรวมทีมที่มองโกเลีย และการเข้าแข่งขัน ถือว่ายังน้อยเกินไป ที่โค้ชจะชี้แนะถึงการเข้าใจเกมกับนักฟุตบอล ถึงแม้ว่าการเข้าใจจะเกิดจากการเล่นจากสโมสรต้นสังกัดก็ตาม แต่การเรียนรู้หรือเล่นร่วมกันในระดับทีมชาติต้องอาศัยความไว้ใจและเข้าใจกันอย่างมาก ทั้งทีมเวิร์ค ระบบเกมรับและรุก ซึ่งนักเตะชุดนี้ถือว่าเป็นผู้เล่นที่มีคุณภาพ ดังนั้นหลักในการพัฒนาทีมจึงอยู่ที่ว่า อยู่กับคนเก่งต้องเก่งตาม อยู่กับคนพัฒนาต้องพัฒนาตาม
" อยากจะให้ผู้เล่นชุดนี้ได้มีโอกาสในการเตรียมทีมที่มากกว่านี้ หรืออุ่นเครื่องกับทีมในระดับที่เก่งกว่า ก็จะเป็นการดีกับนักฟุตบอลชุดนี้ รวมถึงการไปเก็บตัวในต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น ประเทศอังกฤษ หรือ ประเทศเยอรมัน สิ่งเหล่านี้จะสามารถเพิ่มศักยภาพประสบการณ์ของนักฟุตบอลได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งหากหวังถึงการพัฒนาต่อไป ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย หรือ สต๊าฟโค้ชทีมชาติ ต้องนำข้อผิดพลาดไปแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นระบบการเล่นหรือแท็คติก ทีน่าจะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้เล่นได้อีก เพราะด้วยคุณภาพของนักฟุตบอลแล้ว สามารถที่จะต่อยอดได้ รวมไประยะเวลาในการรวมทีมฝึกซ้อม ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ฟุตบอลทีมชาติไทย มีความพร้อมมากยิ่งขึ้น เมื่อต้องเข้าสู่การแข่งขัน " ไพบูลย์ ระบุ
อย่างไรก็ตาม "ทัพช้างศึก" ทีมชาติไทย มีคิวเดินทางไปทำการแข่งขัน ศึก "ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย" รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศอุซเบกิสถาน ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 1-19 มิ.ย.65