เพื่อไทย แจง เสนอแก้ "ม.112" ต้องฟังเสียงสังคม
เพื่อไทย เตรียมยื่นกระทู้สด ราคาข้าว-น้ำมันพุ่ง ชี้ รมต. ตัวปัญหาไม่มาตอบกระทู้ในสภา ไม่แก้ปัญหาให้ ปชช. พร้อม มองเสนอแก้ "ม.112" ต้องฟังเสียงสังคม ปฏิเสธแย่งคะแนนก้าวไกล
นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงผลการประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทยว่า มีการหารือถึงเรื่องแนวทางการทำงานในสภาผู้แทนราษฎร ที่เป็นการเปิดประชุมสมัยที่ 2 ปี 64 ว่าจะต้องปรับปรุงอย่างไร พร้อมกันนี้ได้ตั้งคณะทำงานชุดกลั่นกรองวาระการประชุมสภาฯขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง โดยมีหน้าที่นำวาระของสภาฯมาศึกษารายละเอียด ทุกแง่มุม เพื่อเสนอให้ ส.ส.หามติในที่ประชุมพรรคและนำไปอภิปรายในที่ประชุม ส.ส.ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้การเสนอกระทู้สดในสภาฯทุกเรื่องก็จะได้รับการกลั่นกรอง จากคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคที่จะกำหนดกรอบออกมาให้ซึ่งในวันนี้ได้เน้นการพิจารณาเรื่องกระทู้ถามสด 3 เรื่องคือ ราคาข้าวตกต่ำนำเสนอโดยส.ส.เชียงราย นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ซึ่งเห็นว่าราคาปุ๋ยสูงมาก แต่ราคาข้าวกลับตกต่ำ โดยเรื่องนี้จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาเป็นอันดับแรก ส่วนกระทู้สำรอง คือราคาน้ำมันพุ่งสูง ส.ส.สุรินทร์ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม เพราะราคาน้ำมันตอนนี้ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงและสร้างความเดือนร้อนให้ประชาชน ส่วนอีกหนึ่งกระทู้คือ การแต่งตั้งถอดถอนพระสงฆ์ โดย ส.ส.สกลนคร นายนิยม เวชกามา
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวด้วยว่า รัฐบาลนี้ได้สร้างปัญหาคือรัฐมนตรีไม่มีเข้ามาตอบกระทู้ ตอบน้อย ปฏิเสธเยอะ รัฐมนตรีไม่ตรวจสอบ ส่งผลเสียต่อการตรวจสอบและถ่วงดุลมาก และสร้างความยุ่งยากให้กับฝ่ายค้าน เมื่อรัฐมนตรีไม่มาตอบกระทู้ก็จะค้าง และหากเลื่อนไปก็จะไปชนกับกระทู้ที่มีอยู่ ในสมัยนี้ขอให้รัฐบาลเคารพ กระบวนการของสภาฯโดยเฉพาะเรื่องของกระทู้ ถ้ารัฐมนตรีไม่ตรวจสอบขอให้มีมติคณะรัฐมนตรีออกมา หากปฏิเสธโดยไม่มีมติ ครม. รองรับถือเป็นการทำผิดต่อรัฐธรรมนูญ และพรรคฝ่ายค้านจะไม่ยอมอีกต่อไป และจะมีมาตราการที่จะดำเนินการกับรัฐมนตรีต่อไป
ทั้งนี้นายสุทิน ยังกล่าวถึงการเสนอแก้ไข "มาตรา 112" ของพรรคเพื่อไทยว่า ได้พูดคุยการในที่ประชุมด้วย โดยได้แจ้งว่า คนที่จะอธิบายได้ดีที่สุดคือ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย นายชัยเกษม นิติสิริ โดยให้สมาชิกทุกคนไปศึกษาและทำเข้าใจให้ชัดเจน เพราะเรื่องนี้สุ่มเสี่ยงและเสี่ยงต่อการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนซึ่งเข้าใจดีว่ากระบวนการการบังคับใช้กฎหมายนั้นมีปัญหา โดยเนื้อหาเป็นการพูดคุยกันถึงการบังคับใช้กฎหมาย
และต้องมีการพูดคุยกันในหลายระดับว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาได้หรือไม่ ซึ่งต้องร่วมกันหารืออีกครั้ง และต้องฟังเสียงของด้วย ฝ่ายการเมืองเสนอได้ แต่ต้องฟังเสียงของประชาชน เพื่อไทยคิดว่าเป็นผู้ริเริ่ม ในเรื่องที่มีการเรียกร้องกันมานานแล้ว เมื่อเห็นพ้องต้องกันก็จะเข้าสู่ที่ประชุมสภา เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เฉพาะพรรคเพื่อไทย แต่ต้องฟังเสียงของสังคมที่ร่วมผลักดันด้วย ส่วนจะเป็นการแย่งคะแนนกับพรรคก้าวไกลหรือไม่นั้น ตนมองว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น แต่การที่ดูดาย พรรคการเมืองไม่ควรทำ