สอบผ่าน "เปิดประเทศ" นักท่องเที่ยวพึงพอใจ สธ.เดินหน้าฉีดวัคซีนครบ100 ล.โดส
อนุทิน พอใจเปิดประเทศวันแรกนักท่องเที่ยวพึงพอใจ มาตรการคัดกรองเข้าประเทศ เดินหน้าฉีดวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดสในเดือนพ.ย.นี้ เน้นกลุ่มเสี่ยง พื้นที่เสี่ยง กิจกรรม กิจการเสี่ยง และกลุ่มแรงงานต่างด้าว เพื่อสร้างความปลอดภัยยิ่งขึ้น
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลในการเปิดประเทศถือเป็นความท้าทายของกระทรวงสาธารณสุข ในการควบคุมป้องกันโรค เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของระบบสาธารณสุขแก่นานาประเทศ รวมถึงฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งวานนี้ ( 1 พ.ย) การเปิดประเทศวันแรกมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากว่า 2 พันคน
ได้รับรายงานว่าผู้ที่เดินทางเข้ามามีความพึงพอใจในขั้นตอนและมาตรการของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ โดยทุกคนต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และได้รับการคัดกรองตรวจหาเชื้อ ด้วยวิธี RT-PCR ในโรงแรมที่จัดไว้ พักรอผลตรวจ 1 คืน หากไม่พบเชื้อสามารถท่องเที่ยวและประกอบธุรกิจต่างๆ ในประเทศได้
ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบการติดเชื้อในกลุ่มผู้เดินทางเข้ามาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ได้กำชับให้อธิบดีกรมควบคุมโรค เร่งลดขั้นตอนต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็น และอำนวยความสะดวกให้กับ ผู้มาใช้บริการให้มากที่สุด ซึ่งหลังจากนี้จะมีผู้เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น ได้กำชับให้ผู้ตรวจราชการทุกเขตสุขภาพ ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบูรณาการร่วมกับทุกฝ่าย จัดทำแผนเผชิญเหตุและลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ทุกระดับของการ
เปิดประเทศ พร้อมทั้งให้เร่งฉีดวัคซีน ตั้งเป้าให้ครบ 100 ล้านโดสภายในเดือนพฤศจิกายน พื้นที่ทุรกันดารเข้าถึงยากให้จัดบริการเชิงรุก เฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคในกลุ่มเสี่ยง/เปราะบาง พื้นที่เสี่ยง กิจกรรมและกิจการเสี่ยง รวมถึงฉีดวัคซีนให้กับแรงงานต่างด้าว ยืนยันมีวัคซีนเพียงพอไม่กระทบกับการบริการคนไทย ส่วนแรงงานต่างด้าวที่ต่ออายุการทำงานหรือรายใหม่ที่จะเข้ามาหลังเปิดประเทศ ต้องได้รับวัคซีนครบโดส กรณีเข้ามาผิดกฎหมาย
จะฉีดวัคซีนก่อนส่งให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพื่อสร้างความปลอดภัยแก่คนในประเทศ
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า สำหรับกรอบแนวทางการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข รองรับการเปิดประเทศและการระบาดของโควิด-19 จะยึด 4 เป้าหมาย เพื่อให้สามารถอยู่รวมกับโควิด-19 ได้ ได้แก่ สร้างความเชื่อมั่น ให้ประชาชนในการใช้ชีวิตวิถีใหม่ ดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามหลักการแพทย์และสาธารณสุข, สร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ ให้การรักษา เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมเพื่อลดการป่วยหนัก และเสียชีวิต, ฟื้นฟูเศรษฐกิจ กระตุ้นให้เศรษฐกิจของประเทศกลับมาฟื้นตัว และเสริมสร้างสังคมและวัฒนธรรม ให้ประชาชนกลับมาดำเนินกิจกรรมด้านสังคม โดยยึดมาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention)