"ตำรวจสอบสวนกลาง" เปิดยุทธการเด็ดปีก "อวตาร" หลอกลวงเหยื่อกรรโชกทรัพย์
ตำรวจ ปคม.บุกจับ"หนุ่มแสบ" เปิดเฟซบุ๊ก"อวตาร" แอบอ้างเป็นหญิงสาวหน้าตาดี ลวงเหยื่อส่งภาพอนาจาร ก่อนขู่กรรโชกทรัพย์ พบประวัติเพิ่งพ้นโทษคดีเดียวกันมา 1 ปี ก่อนก่อเหตุซ้ำซาก
เมื่อวันที่ 3 ต.ค.64 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.สั่งการให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม.พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรเดช พระสว่าง รอง ผบก.ปคม.และ พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.5 บก.ปคม.ทำการจับกุมนายธนกฤต หรือโอ๊ต อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1854 /2564 ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ในข้อกล่าวหา ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น และ ส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น ,ข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือ โดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สาม ,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
สืบเนื่องจากกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ บก.ปคม.ได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนผ่านช่องทางเพจ"เฟซบุ๊ก" ว่ามีผู้ใช้บัญชี"เฟซบุ๊ก"ปลอมเป็นหญิงสาวสวยหน้าตาดี ติดต่อพูดคุยกับเหยื่อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชนผ่านช่องทาง"เฟซบุ๊ก" เมื่อเหยื่อเริ่มคุ้นเคยก็จะชักชวนพูดคุยเรื่องลามกอนาจาร แล้วส่งภาพลามกอนาจารของหญิงสาวไป แล้วชักชวนเหยื่อถ่ายภาพโป๊เปลือยโชว์ของสงวนของลับตนเองกลับมา เมื่อเหยื่อซึ่งเป็นผู้เยาว์รู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้ส่งภาพโป๊เปลือยโชว์ของสงวนของลับตนเองกลับมา ก็จะบันทึกภาพนั้นไว้ แล้วนำมาข่มขู่"กรรโชกทรัพย์"เหยื่อให้จ่ายเงิน มิฉะนั้นจะเผยแพร่ภาพของเหยื่อในโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดความเสียหายและอับอาย
พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม.จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด จากการสืบสวนพบว่าคนร้ายสมัครใช้เฟซบุ๊กปลอม หรือ "เฟซอวตาร" จำนวน 4 บัญชี ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นภาพของหญิงสาวหน้าตาดี โดยใช้ชื่อบัญชีว่า Punnapat,Picrada,ชลธิชา และ แพรทอง จากนั้นจะใช้วิธีเลือกเหยื่อ หากเหยื่อเป็นเด็กและเยาวชน จะใช้แอปพลิเคชัน“OMI” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับหาเพื่อนของกลุ่มวัยรุ่น ส่วนเหยื่อที่เป็นผู้ใหญ่ ก็จะเลือกหาเหยื่อผ่านเว็บไซต์ www.swinging.com กระทั่งทราบว่า นายธนกฤต ผู้ต้องหา เป็นผู้ก่อเหตุทั้งหมด จึงขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับกุม กระทั่งจับกุมตัวได้สำเร็จ
นอกจากนี้ยังพบว่า นายธนกฤต เคยมีประวัติต้องโทษในคดีอาญา ข้อหากรรโชกทรัพย์ และยักยอกทรัพย์ รวม 3 คดี ล่าสุดเพิ่งพ้นโทษในคดี"กรรโชกทรัพย์" เมื่อ 27 พฤศจิกายน 2563 และกลับมากระทำผิดซ้ำอีก เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปคม.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป