ข่าว

ศรีสุวรรณยื่น กกต.สอบ ส.ส. พปชร. "วีระกร" ปมช่วย อบต. หาเสียง

ศรีสุวรรณยื่น กกต.สอบ ส.ส. พปชร. "วีระกร" ปมช่วย อบต. หาเสียง

05 พ.ย. 2564

ศรีสุวรรณ ยื่น กกต.สอบ ส.ส. นครสวรรค์ พลังประชารัฐ "วีระกร คำประกอบ" ปมช่วย อบต. หาเสียง ผิด กม.เลือกตั้งท้องถิ่นหรือไม่

วันนี้ เวลา 10.00 น.นายศรีสุวรรณ จรรยา ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กรณีที่ปรากฏคลิปในโซเชียลมีเดียและสำนักข่าวเนชั่นได้รายงานทั้งภาพและเสียงจำนวน 2 คลิป กรณี "นายวีระกร คำประกอบ" สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดนครสวรรค์ อาจมีพฤติการณ์ช่วยผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และทีมผู้สมัคร ส.อบต.หาเสียง ทั้งในตำบลพระนอนและ ต.เกรียงไกร อ.เมืองจ.นครสวรรค์ ถือเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

 

กรณีดังกล่าวแม้ "นายวีระกร" จะออกมาภาคเสธว่าเป็นเพียงการอวยพรผู้สมัครและทีมงานผู้สมัครและเป็นการลองไมค์ เทสเสียง เทสไมค์เท่านั้น ไม่มีเจตนาหาเสียงแต่อย่างใด แต่ทว่าคลิปทั้ง 2 คลิปดังกล่าว เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ เพราะเด็กอมมือก็ย่อมรู้ได้ว่าเป็นการหาเสียงหรือการลองไมค์ หรือการอวยพร และแม้คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน  สภาผู้แทนราษฎรจะได้มีการเชิญคณะกรรมการการเลือกตั้งไปให้ความเห็นในประเด็นดังกล่าวในสัปดาห์หน้าแล้วก็ตาม

 

แต่ทว่านักการเมืองทั้งหลายจงจำไว้ว่าการกระทำใด ที่อาจฝ่าฝืนพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 เป็นอำนาจของ กกต. ที่จะต้องรีบดำเนินการไต่สวนสอบสวนเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เป็นการเร่งด่วน เพราะหากชักช้าอาจทำให้การเลือกตั้ง อบต.ที่เกิดขึ้นเป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรมได้


ทั้งนี้ตาม การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ม.34 บัญญัติไว้ชัดเจนว่า ห้ามข้าราชการการเมือง ส.ส. ส.ว. ดำเนินการใด ๆ ที่เป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครใด และในม. 69  กำหนดห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใช้ตำแหน่งหน้าที่กระทำการใด ๆ อันเป็นคุณหรือโทษต่อผู้สมัคร ถ้าฝ่าฝืน ม. 34 เมื่อ กกต.ทราบแล้วต้องสั่งให้หยุดกระทำนั้น ส่วนถ้าฝ่าฝืน ม. 69 มีบทลงโทษค่อนข้างแรงใน ม.126 วรรคสอง  มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลอาจสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 20 ปี 

 

กรณีที่เกิดขึ้นมีคลิปทั้งภาพและเสียงที่ชัดเจน จึงเป็นหน้าที่และอำนาจของ กกต. ที่จะต้องพิจารณาและวินิจฉัยว่า เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนตามมาตราดังกล่าวหรือไม่ และหากเป็นการฝ่าฝืนก็ต้องรีบสั่งให้หยุดดำเนินการดังกล่าวเสีย และที่สำคัญจะเป็นหลักฐานที่สามารถนำไปร้องเรียนเอาผิดเกี่ยวกับการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมของนักการเมืองต่อไปได้ วันนี้สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงต้องมาเริ่มต้นร้องเรียนให้ กกต.วินิจฉัยเสียก่อน นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด