ข่าว

"รหัส OTP" คืออะไร? ทำไมห้ามบอกใคร ตำรวจเตือนภัยให้รู้ทันโจรออนไลน์

"รหัส OTP" คืออะไร? ทำไมห้ามบอกใคร ตำรวจเตือนภัยให้รู้ทันโจรออนไลน์

06 พ.ย. 2564

ตำรวจสอบสวนกลาง เตือนภัยอย่าไว้ใจให้รหัส OTP กับใคร พร้อมแนะนำ 4 วิธีป้องกันเบื้องต้น ไม่ให้ถูกหลอกเป็นเหยื่อ

จากกรณีตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) สามารถจับกุมตัวสาวแสบวัย 31 ปี ก่อเหตุหาเหยื่อตามโซเชียล แฮกไลน์ยืมเงิน โดยการสวมรอยออกอุบายหลอกถามรหัส OTP เพื่อติดต่อมาขอยืมเงิน จนผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปให้ และยังมีข่าวหลายกรณีที่ประชาชนตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อคนร้ายลักษณะนี้จำนวนมาก

 

ตำรวจสอบสวนกลางจึงขอเตือนภัยจากการใช้รหัส OTP ในการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยแนะนำให้ทุกคนทำการกรอกรหัส OTP ด้วยตนเอง อย่าไว้ใจให้ใครดำเนินการให้ ไม่เช่นนั้นจะถูกดูดเงินในบัญชีจนหมดเกลี้ยง

 

ทั้งนี้ในปัจจุบันการทำธุรกรรมออนไลน์เป็นเรื่องที่ง่าย สะดวกและรวดเร็ว ประหยัดเวลาในการโอนเงินถอนเงิน หรือซื้อสินค้าและบริการ โดยการทำธุรกรรมแต่ละครั้ง มักจะมีรหัส OTP ขึ้นมาให้กรอกอยู่เสมอ 

วันนี้ตำรวจสอบสวนกลางได้มาให้ความรู้ เกี่ยวกับความสำคัญของรหัส OTP ที่ไม่ควรบอกผู้อื่น พร้อมอธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่า รหัส OTP นั้นคืออะไร? สำคัญมั้ย?

 

OTP ย่อมาจาก One Time Password หมายถึงรหัสที่ใช้เพียงครั้งเดียวในการเข้าสู่ระบบ ทุกครั้งที่เข้าระบบจะได้รหัสชุดใหม่ ซึ่งจะส่งผ่านทาง SMS ตามเบอร์โทรศัพท์ที่กรอกไว้ มีอายุการใช้งาน 3-5 นาที ต่อ 1 รหัส ดังนั้น  OTP จะช่วยให้ไม่ต้องจดจำรหัสผ่านและช่วยรักษาความปลอดภัยป้องกันไม่ให้ผู้อื่นนำรหัสไปใช้ 

 

ซึ่งมิจฉาชีพในปัจจุบัน มักจะหลอกลวงผู้อื่น โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร สถาบันทางการเงิน หรือค่ายโทรศัพท์ หลอกให้เหยื่อหลงกลส่งเลขรหัส OTP ผ่าน SMS หรือ เว็บไซต์ที่แนบลิงก์เอาไว้ เมื่อกดเข้าไปจะโดนดูดข้อมูลส่วนตัว เพื่อสวมรอยเป็นเหยื่อไปทำธุรกรรมสร้างความเสียหาย หรือโอนย้ายเงินในบัญชี เปลี่ยนแปลงการผูกบัญชีกับแอปพลิเคชัน บัญชีบัตรเครดิต และ การจ่ายสินค้าออนไลน์ เป็นต้น

 

ดังนั้นรหัส OTP จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรเปิดเผยให้ผู้อื่นรู้ เพราะเสี่ยงต่อการโจรกรรมข้อมูล ทำให้เสียทรัพย์ได้ในภายหลัง

วิธีป้องกันเบื้องต้น ไม่ให้ถูกหลอกเป็นเหยื่อ มีดังนี้

  1. อย่าหลงเชื่อลิงก์ที่แนบมาพร้อมกับข้อความ SMS อีเมล เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือโปรแกรมสนทนาต่างๆ และห้ามเปิดลิงก์ที่แนบมาอย่างเด็ดขาด
  2. ห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวผ่านการร้องขอทุกรูปแบบต่าง ๆ หากไม่แน่ใจเกี่ยวกับช่องทางการบริการ ให้ติดต่อกับผู้บริการด้วยตนเอง
  3. เลือกใช้บริการแจ้งเตือน เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวของบัญชีตลอดเวลา  
  4. กรณีหลงเชื่อและเปิดเผยข้อมูลหรือรหัสผ่านไปแล้ว ให้รีบติดต่อผู้ให้บริการเพื่อเปลี่ยนรหัสผ่านทันที

 

ตำรวจสอบสวนกลางขอเตือนประชาชน ให้ระมัดระวังการส่งข้อมูลส่วนตัว และรหัส OTP แก่บุคคลอื่น ไม่ว่าจะในรูปแบบข้อความหรือรูปภาพ หากประชาชนมีข้อสงสัย หรือพบเห็นพฤติกรรมดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสข้อมูลเข้าไปได้ที่ เพจตำรวจสอบสวนกลาง