ผู้ว่าฯ "นครศรีธรรมราช" ย้ำ จนท. เฝ้าระวังเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลุ่มต่ำ
เร่งประสานทำการขุดลอกและกำจัดสิ่งปฏิกูลออกทันที เพื่อ "เปิดทางน้ำ" ให้ไหลระบายได้อย่างสะดวก จะสามารถบรรเทาน้ำท่วมได้
กรณีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ ทุกจังหวัดสั่งเตรียมความพร้อมช่วยเหลือชาวบ้าน นายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า "น้ำท่วม" ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช หลายอำเภอเป็นบริเวณกว้าง แม้สถานการณ์ยังไม่รุนแรงมากนัก แต่ก็ห่วงใยต่อประชาชนในพื้นที่เสี่ยง จึงสั่งการเจ้าหน้าที่เฝ่าระวัง พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อติดตามสถานการณ์ และพร้อมเข้าปฏิบัติหน้าที่คลี่คลายสถานการณ์หากเกิดภัย
เน้นย้ำประชาชนต้องปลอดภัย ลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมกันนี้ได้แจ้งเตือนให้มีการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำล้นตลิ่ง โดยให้ทุกอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการติดตามสถานการณ์ และแจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก บริเวณที่ลาดเชิงเขาและการเฝ้าระวังเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณคลองท่าดีและคลองชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช
จากการตรวจสอบ บริเวณถนนสะพานยาว-ถนนชลประทานทางลัดเข้าเมืองเบญจมราชขูทิศ พบว่ามวลน้ำจำนวนมากระบายไม่ทัน เนื่องจากคูข้างถนนตื้นเขินและมีต้นไม้ สิ่งปฏิกูลอัดแน่น ทำให้น้ำไหลเอ่อจะท่วมถนน จึงประสาน ดร.กณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช นำเครื่องจักกลหนัก รถแบคโฮขนาดใหญ่ เร่งเข้าทำการขุดลอกคูน้ำริมถนนทำให้น้ำไหลระบายได้อย่างสะดวก และระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว
พร้อมกันนี้ขอให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง สำรวจตรวจสอบแม่น้ำ ลำคลอง ห้วยหนองคลองบึง ว่า ยังมีจุดใดบ้างที่มีปัญหาตื้นเขิน มีสิ่งปฏิกูลเป็นปัญหาอุปสรรคทำให้น้ำไหลระบายไม่สะดวก ก็ให้เร่งประสานทำการขุดลอกและกำจัดสิ่งปฏิกูลออกทันที เพื่อเปิดทางน้ำให้ไหลระบายได้อย่างสะดวกจะสามารถบรรเทาน้ำท่วม ในแต่ละพื้นที่ได้ในระดับหนึ่ง และในปีนี้การเตรียมการรองรับอุทกภัยในภาพรวมถือว่าทำได้ดีมาก
ขณะที่ศูนย์ติดตามฯ ภัยพิบัติด้านการเกษตร จังหวัดนครศรีธรรมราช รายงานสถานการณ์ภัยพิบัติเบื้องต้น วันที่ 13 พ.ย.64 เวลา 08.30 น.พบว่า ปริมาณฝนสูงสุดอยู่ที่ อำเภอสิชล มีปริมาณฝน 121.4 มม.
ส่วนสถานการณ์ในภาพรวมตั้งแต่วันที่ 10-13 พ.ย.64 เกิดอุทกภัยในพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้ว 5 อำเภอ คืออำเภอเมืองนครศรีธรรมราช พระพรหม สิชล ร่อนพิบูลย์ และนบพิตำ รวม 10 ตำบล 17 หมู่บ้าน มีน้ำท่วมขังเล็กน้อยในพื้นที่ลุ่มต่ำรับน้ำ อำเภอชะอวด อำเภอหัวไทร และอำเภอปากพนัง
โดยกรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำแล้ว 24 เครื่อง เป็นเครื่องผลักดันน้ำ 14 เครื่อง และเครื่อง Hydro Floe 6 เครื่อง ,เกษตรอำเภอ/ประมงอำเภอ/ปศุสัตว์อำเภอ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ สำรวจพื้นที่การเกษตร และให้คำแนะนำเกษตรกรให้การดูแลผลผลิต/การป้องกันกำจัดโรคในช่วงน้ำท่วม
และกรมทรัพยากรน้ำ (ทน.) แจ้งข้อมูลการเตือนภัย 13 พ.ย.64 (เวลา 00.38 น.) เตือนภัยอพยพ (สีแดง) บ้านสำนักเนียน ต.เขาน้อย อ.สิชล มีปริมาณฝนสะสม 12 ชั่วโมง 143.0 มิลลิเมตร ปัจจุบันยังมีฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำในลำห้วยเริ่มล้นตลิ่งท่วมสะพานทับช้างห้วยแก้ว รถไม่สามารถสัญจรได้
ทั้งนี้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน หรือขอรับความช่วยเหลือ แจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 075 358 442 หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ภาพ/ข่าว ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช