ข่าว

ผู้ว่าฯ "นครศรีธรรมราช" ย้ำ จนท. เฝ้าระวังเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลุ่มต่ำ

ผู้ว่าฯ "นครศรีธรรมราช" ย้ำ จนท. เฝ้าระวังเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลุ่มต่ำ

13 พ.ย. 2564

เร่งประสานทำการขุดลอกและกำจัดสิ่งปฏิกูลออกทันที เพื่อ "เปิดทางน้ำ" ให้ไหลระบายได้อย่างสะดวก จะสามารถบรรเทาน้ำท่วมได้

กรณีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ ทุกจังหวัดสั่งเตรียมความพร้อมช่วยเหลือชาวบ้าน นายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า "น้ำท่วม" ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช หลายอำเภอเป็นบริเวณกว้าง แม้สถานการณ์ยังไม่รุนแรงมากนัก แต่ก็ห่วงใยต่อประชาชนในพื้นที่เสี่ยง จึงสั่งการเจ้าหน้าที่เฝ่าระวัง พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อติดตามสถานการณ์ และพร้อมเข้าปฏิบัติหน้าที่คลี่คลายสถานการณ์หากเกิดภัย 

 

เน้นย้ำประชาชนต้องปลอดภัย ลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมกันนี้ได้แจ้งเตือนให้มีการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำล้นตลิ่ง โดยให้ทุกอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการติดตามสถานการณ์ และแจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก บริเวณที่ลาดเชิงเขาและการเฝ้าระวังเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณคลองท่าดีและคลองชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช 

ผู้ว่าฯ \"นครศรีธรรมราช\" ย้ำ จนท. เฝ้าระวังเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลุ่มต่ำ

จากการตรวจสอบ บริเวณถนนสะพานยาว-ถนนชลประทานทางลัดเข้าเมืองเบญจมราชขูทิศ พบว่ามวลน้ำจำนวนมากระบายไม่ทัน เนื่องจากคูข้างถนนตื้นเขินและมีต้นไม้ สิ่งปฏิกูลอัดแน่น ทำให้น้ำไหลเอ่อจะท่วมถนน จึงประสาน ดร.กณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช นำเครื่องจักกลหนัก รถแบคโฮขนาดใหญ่ เร่งเข้าทำการขุดลอกคูน้ำริมถนนทำให้น้ำไหลระบายได้อย่างสะดวก และระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว 

 


พร้อมกันนี้ขอให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง สำรวจตรวจสอบแม่น้ำ ลำคลอง ห้วยหนองคลองบึง ว่า ยังมีจุดใดบ้างที่มีปัญหาตื้นเขิน มีสิ่งปฏิกูลเป็นปัญหาอุปสรรคทำให้น้ำไหลระบายไม่สะดวก ก็ให้เร่งประสานทำการขุดลอกและกำจัดสิ่งปฏิกูลออกทันที เพื่อเปิดทางน้ำให้ไหลระบายได้อย่างสะดวกจะสามารถบรรเทาน้ำท่วม ในแต่ละพื้นที่ได้ในระดับหนึ่ง และในปีนี้การเตรียมการรองรับอุทกภัยในภาพรวมถือว่าทำได้ดีมาก 

ผู้ว่าฯ \"นครศรีธรรมราช\" ย้ำ จนท. เฝ้าระวังเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลุ่มต่ำ

ขณะที่ศูนย์ติดตามฯ ภัยพิบัติด้านการเกษตร จังหวัดนครศรีธรรมราช รายงานสถานการณ์ภัยพิบัติเบื้องต้น วันที่ 13 พ.ย.64 เวลา 08.30 น.พบว่า ปริมาณฝนสูงสุดอยู่ที่ อำเภอสิชล มีปริมาณฝน 121.4 มม.

 

ส่วนสถานการณ์ในภาพรวมตั้งแต่วันที่ 10-13 พ.ย.64 เกิดอุทกภัยในพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้ว 5 อำเภอ คืออำเภอเมืองนครศรีธรรมราช พระพรหม สิชล ร่อนพิบูลย์ และนบพิตำ รวม 10 ตำบล 17 หมู่บ้าน มีน้ำท่วมขังเล็กน้อยในพื้นที่ลุ่มต่ำรับน้ำ อำเภอชะอวด อำเภอหัวไทร และอำเภอปากพนัง

 

โดยกรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำแล้ว 24 เครื่อง เป็นเครื่องผลักดันน้ำ 14 เครื่อง และเครื่อง Hydro Floe 6 เครื่อง ,เกษตรอำเภอ/ประมงอำเภอ/ปศุสัตว์อำเภอ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ สำรวจพื้นที่การเกษตร และให้คำแนะนำเกษตรกรให้การดูแลผลผลิต/การป้องกันกำจัดโรคในช่วงน้ำท่วม

 

และกรมทรัพยากรน้ำ (ทน.) แจ้งข้อมูลการเตือนภัย 13 พ.ย.64 (เวลา 00.38 น.) เตือนภัยอพยพ (สีแดง) บ้านสำนักเนียน ต.เขาน้อย อ.สิชล มีปริมาณฝนสะสม 12 ชั่วโมง 143.0 มิลลิเมตร ปัจจุบันยังมีฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำในลำห้วยเริ่มล้นตลิ่งท่วมสะพานทับช้างห้วยแก้ว รถไม่สามารถสัญจรได้

 

ทั้งนี้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน หรือขอรับความช่วยเหลือ แจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 075 358 442 หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

ผู้ว่าฯ \"นครศรีธรรมราช\" ย้ำ จนท. เฝ้าระวังเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลุ่มต่ำ

ภาพ/ข่าว ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช