"ครม.สัญจร" ก.พลังงาน ชงกู้ 2 หมื่นล้าน-โครงการ 6 จ.อันดามัน หลายหมื่นล้าน
จับตา "ครม.สัญจร" กระบี่ ก.พลังงาน ชงกู้เงิน 2 หมื่นล้านใส่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ตรึงน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร- ชงโครงการกลุ่ม 6 จ.อันดามัน งบฯหลายหมื่นล้าน ด้าน ศธ.เสนอโครงการ อาชีวะสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชน แก้ปัญหาเด็กตกหล่นที่หลุดจากระบบการศึกษา
วันที่ 16 พ.ย. 64 การประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่หรือ "ครม.สัญจร" ครั้งที่ 1/2564 กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรังพังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) ที่จังหวัดกระบี่ มีวาระที่น่าสนใจหลายเรื่อง
-กระทรวงพลังงานจะนำเรื่องการขอกู้เงินเพิ่มเติม ภายใต้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงพ.ศ. 2562
-การพัฒนาพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) อาทิ การนำเสนอแหล่งมรดกทางธรรมชาติ พื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามันเข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก
-ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการจัดซื้อที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชนในพื้นที่ป่าชายเลน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 และ 2563 ในท้องที่จังหวัดชายฝั่งทะเล 21 จังหวัด
-เรื่องการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) อาทิ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ (ฉบับที่ ..)
-ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการต่ออายุบัตรอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวและใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ พ.ศ. ….
-ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯเพิ่มเติม พ.ศ.2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 14/2564
เรื่องเพื่อทราบ หากไม่มีข้อทักท้วงให้ถือเป็นเรื่องที่ ครม. เห็นชอบ/อนุมัติ อาทิ ขอเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย เทศบาลนครหาดใหญ่จังหวัดสงขลา
เรื่องเพื่อพิจารณา อาทิ ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อจัดให้รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเช่าพื้นที่ราชพัสดุเพื่อเป็นที่ทำการและที่พักเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดสงขลา
-ขอความเห็นชอบร่างความตกลงว่าด้วยการต่ออายุแถลงการณ์ร่วมแสดงเจตจำนงว่าด้วยการพัฒนาความร่วมมือด้านรถไฟ ระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
-ร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมสภารัฐมนตรีสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดียครั้งที่ 21
-การขออนุมัติกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
-ขอรับการจัดสรรงบประมาณในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ พังงา ภูเก็ต ตรัง ระนอง และสตูล) รวมแล้วหลายหมื่นล้านบาท ประกอบด้วย
-โครงการชุดลอกร่องน้ำกันตัง จังหวัดตรัง
-โครงการก่อสร้างสนามบินนานาชาติ จังหวัดพังงา
- โครงการพัฒนาท่าเรือสำราญเกาะคอเขา
-โครงการรถไฟรางเบางบฯ 3.45 หมื่นล้าน จังหวัดภูเก็ต
-โครงการท่าอากาศยานสตูล 4,133 ล้านบาท
- โครงการพัฒนาร่องน้ำเศรษฐกิจในจังหวัดสตูล
-.โครงการยกระดับและพัฒนาศักยภาพศูนย์สั่งการและระบบการแพทย์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน งบประมาณ 691,559,600 บาท
-โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือโดยสาร-ท่องเที่ยวปากคลองจิหลาด รองรับการเข้าถึงระบบขนส่งอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมตามมาตรฐานสากล (Friendly Design) งบประมาณ 35,000,000 บาท
-โครงการกิจกรรมเทศกาลการท่องเที่ยว (Festival) และกิจกรรมกีฬาเชิงการท่องเที่ยว (Sports Event)เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดกระบี่ 2565-2567 งบประมาณ 31,000,000 บาท
-โครงการส่งเสริมการเลี้ยงแพะ และแปรรูปผลิตภัณฑ์แบบครบวงจรตามมาตรฐานอาหารฮาลาล งบประมาณ 591,134,600 บาท
-โครงการพัฒนาการประมงในอ่าวพังงา (ภูเก็ต พังงา กระบี่) อย่างยั่งยืน (2566-2570) (Andaman Sustainable Fisheries Development Project, 2022-2026) (บ่อปลายักษ์) งบประมาณ 892,000,000 บาท
นอกจากนี้ต้องลุ้นกระทรวงสาธารณสุขชงค่าตอบแทน เยียวยา ชดเชย และเสี่ยงภัย สำหรับการปฏิบัติงานของ อสม.1,500 บาท ต่อเดือนจากเดิมมีระยะเวลา 19 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ กระทรวงสาธารณสุขจึงจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.)ต่อเวลาออกไปอีก เพื่อขอให้ได้ค่าตอบแทน 1,500 บาทตลอดชีพ
-ด้านกระทรวงศึกษาธิการ จะเสนอโครงการ อาชีวะสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชน เพื่อผลิตกำลังคนของประเทศ” หรือ อาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ ของสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา(สอศ.)ให้ที่ประชุม ครม.พิจารณา ซึ่งการช่วยแก้ปัญหาเด็กตกหล่นที่หลุดจากระบบการศึกษา
โครงการของ สอศ.เป็นการช่วยเหลือนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล ยากจน ขาดโอกาสทางการศึกษา ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษามากขึ้น ในลักษณะโรงเรียนประจำ ผู้เรียนได้เรียนฟรี มีที่พัก พร้อมอาหาร โดยไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ซึ่งในปีการศึกษา 2565 จะนำร่องที่ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ จังหวัดกระบี่ ตรังพังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล ก่อน ทั้งสิ้น 16 แห่ง จากนั้นจะขยายโครงการไปในวิทยาลัยสังกัด สอศ.ทั่วประเทศ รวมถึงฝึกอบรม Upskill และ Reskill ให้เยาวชนด้วย มีระยะเวลาดำเนินโครงการ 10 ปี ตั้งแต่ปีงบฯ 2566-2575
ทั้งนี้กระทรวงศึกษาธิการตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มปริมาณผู้เรียนสายวิชาชีพได้ 31,200 คนต่อปี และ Upskill และ Reskill ได้ 65,000 คนต่อปี ใช้งบประมาณเฉลี่ย 1,200 ล้านบาทต่อปี