ข่าว

อัยการปราบทุจริตฯภ.3 เร่ง ปปช.ส่งตัว "พิกิฏ" ฟ้องคดีทุจริตยาง 30 พ.ย.นี้

อัยการปราบทุจริตฯภ.3 เร่ง ปปช.ส่งตัว "พิกิฏ" ฟ้องคดีทุจริตยาง 30 พ.ย.นี้

20 พ.ย. 2564

อัยการปราบทุจริตฯภ.3 ส่งหนังสือแจ้ง ประธาน ป.ป.ช. เร่งส่งตัว "พิกิฎ ศรีชนะ" เลขาฯรมว.วัฒนธรรม ฟ้องคดีทุจริตส่งเสริมปลูกยาง สมัยเป็นรองนายกฯ อบจ. ยโสธร ภายในวันที่ 30 พ.ย.นี้ หลังบางข้อหาหมดอายุความแล้ว

ความคืบหน้ากรณี นายพิกิฏ ศรีชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดทางอาญาในคดีกล่าวหาทุจริตโครงการส่งเสริมการปลูกยางพารา ปี 2549 , 2550 และ 2551  เมื่อครั้งสมัยดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ยโสธร ก่อนที่จะถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ออกหมายจับในเวลาต่อมา หลังจากไม่เดินทางมารายงานตัวพนักงานอัยการตามนัดหมาย 

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมานายปรีชา พงษ์พานิช รองอธิบดีอัยการภาค 1 รักษาการในตำแหน่งอธิบดีอัยการสํานักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 3 ได้ทำหนังสือถึงประธานกรรมการ ป.ป.ช. เรื่องขอให้ส่งตัวผู้ถูกกล่าวหาไปฟ้องโดยอ้างถึงหนังสือสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ส่งรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงพร้อมเอกสารประกอบเรื่องกล่าวหาคดีที่ ขอให้อัยการสูงสุดพิจารณาดำเนินคดีอาญากับนายพิกิฎ ศรีชนะ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐเทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ,เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น,เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91,151,152,157  พรบ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2502 มาตรา7,8,13 

ทั้งนี้อัยการสูงสุดได้พิจารณารายงานการไต่สวนและความเห็นกรณีดังกล่าวข้างต้นแล้วมีคำสั่งให้ดำเนินคดีอาญา ตามประมวลกฏหมายอาญาตามมาตรา 151 ที่ยังไม่หมดอายุความ 

ส่วนการฟ้องคดีตามมาตรา 152 และ157 อสส. มีคำสั่งให้ยุติการดำเนินคดีกับ นายพิกิฏ เนื่องจากคดีขาดอายุความ โดย อสส.ได้มอบหมายพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 3 เป็นผู้ดำเนินคดี 


คดีนี้เหตุเกิดที่ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร และต.กุดชุม อ.กุดชุม จ.ยโสธร จึงต้องฟ้องผู้ถูกกล่าวหาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 และอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1ภาค  3 เป็นผู้ดำเนินคดี

 

โดยขอให้ ป.ป.ช. ดำเนินการแจ้ง นายพิกิฏ ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการ ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 เวลา 09.30 น. เพื่อดำเนินการฟ้องคดีตาม พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 และขอให้ดำเนินการจัดการให้ได้ตัวผู้ถูกกล่าวหามาฟ้องคดีภายในกำหนดอายุความตามกฎหมายต่อไป

สำหรับข้อหาที่ยังไม่ขาดอายุความคือข้อหาประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151  ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท ซึ่งข้อหาคดีนี้อายุความ 20 ปี

 

อย่างไรก็ตามจากการโทรสอบถามเรื่องดังกล่าวไปยัง นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ ได้ทราบเรื่องแล้ว จึงมีความเป็นห่วงเเละมีการประสานไปยังผู้เกี่ยวข้องให้นำตัวผู้ต้องหามาฟ้องในข้อหาที่ยังไม่ขาดอายุความโดยเร็ว