ข่าว

สมชายชงออกแบบกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส. ต้องเน้นให้เกิดความชอบธรรมมากที่สุด

สมชายชงออกแบบกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส. ต้องเน้นให้เกิดความชอบธรรมมากที่สุด

23 พ.ย. 2564

สมาชิกวุฒิสภาแนะออกแบบกฎหมายลูกในการเลือกตั้งส.ส. ต้องเน้นให้เกิดความชอบธรรมมากที่สุด ไม่เอื้อประโยชน์แก่ฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง ประโยชน์จึงจะตกแก่ประชาชน และป้องกันการซื้อเสียงด้วย

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ “คมชัดลึก” ถึงรัฐธรรมนูญที่แก้ไขใหม่และกำหนดให้การเลือกตั้งทั่วไปในครั้งหน้านี้ ใช้บัตรเลือกตั้งแบบ 2 ใบ โดยเป็นการเลือก ส.ส.แบบเขตเลือกตั้ง 400 คน และส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน ว่า การแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญทุกฉบับ ถูกออกแบบเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา หรือแม้แต่การแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ทำให้การเลือกตั้ง ย้อนกลับไปเหมือนรัฐธรรมนูญปี 2540 แต่อย่างไรก็ตาม หากแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วเกิดประโยชน์ต่อประชาชน ตนเองก็เห็นด้วยทุกประการ

 

นายสมชาย กล่าวว่า การพัฒนาการเมืองมีหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนด้วยการลงคะแนนเสียงใช้สิทธิเลือกตั้ง หรือการเสนอความคิดเห็นเพื่อให้เกิดการปฏิรูปการเมือง ซึ่งก็มีหลายรูปแบบ แต่ถ้าประชาชนหวังพึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ด้วยการให้เป็นตัวแทนเฉพาะกลุ่มผลประโยชน์ เฉพาะพื้นที่ ปัญหาที่ตามมาคือ ส.ส.จังหวัดที่เน้นกลุ่มผลประโยชน์เฉพาะพื้นที่ ก็จะสนใจแก้ปัญหาเฉพาะพื้นที่จังหวัดของตนเอง ไม่ได้สนใจการแก้ปัญหาภาพรวมของประเทศ 

 

สมชายชงออกแบบกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส. ต้องเน้นให้เกิดความชอบธรรมมากที่สุด

นอกจากนี้ หากการเลือกตั้งยังเป็นในลักษณะของการรับเงินซื้อเสียง ซึ่งในการเลือกตั้งท้องถิ่น ก็พบว่ามีการใช้เงินซื้อเสียง ขนาดการเลือกผู้ใหญ่บ้านยังมีการซื้อเสียง ฉะนั้น เมื่อเพิ่มพื้นที่ในการมี ส.ส.เขตขยายมากขึ้น จากเดิมมีส.ส.เขต 350 คน การเลือกตั้งส.ส.แบบใหม่ ที่ขยายพื้นที่เป็น 400 คน 400 เขต ในส่วนของเขตพื้นที่ขนาดเล็ก ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะมีการซื้อเสียง ถ้าเขตไหนใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งมาก เขตนั้นก็ชนะเพราะเคยมีงานวิจัย ระบุออกมาว่ามีการใช้เงินซื้อเสียงมาก ถึงจำนวน 20-70 ล้านบาท 

 

“ถ้ามีการใช้เงินซื้อเสียงและเข้ามาเป็นผู้แทน ที่จริงเงินเดือน ส.ส.หักภาษีแล้ว ก็ไม่คุ้มหรอก แต่ถ้ามีการนำงบประมาณไปลงในพื้นที่จังหวัดและกินเปอร์เซ็นต์จากงบประมาณ สมมุติได้เงินงบประมาณ 100 ล้านบาทต่อปีไปลงในพื้นที่และกินเปอร์เซ็นต์ที่ 20-30% ก็ได้ 20 ล้านบาทแล้ว แบบนี้ก็คืนทุนได้เร็วขึ้น หากใช้เงินซื้อเสียงเข้ามา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คนอยากเป็นส.ส. และก็หนีไม่พ้นวงจรอุบาทว์คือการคอร์รัปชัน” นายสมชาย ระบุ
 

 

 

เมื่อถามว่าจะให้แนวทางในการเลือกส.ส.แก่ประชาชนอย่างไร ส.ว.สมชาย กล่าวว่าประชาชนต้องดูที่นโยบายของพรรคการเมืองนั้นประกอบด้วยว่า มีนโยบายในการแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชนอย่างไร ไม่ใช่เน้นดูเฉพาะผู้สมัคร ส.ส.เป็นหลัก ขณะเดียวกันในส่วนของกฎหมายลูกประกอบการเลือกตั้ง โดยเฉพาะกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ก็ควรมีการออกแบบวิธีการ หลักเกณฑ์ในการลงคะแนน การนับคะแนนให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ก็จะป้องกันการบิดเบี้ยวของคะแนนเสียงได้ 

 

“จะทำอย่างไรให้มีการนับคะแนนเสียงที่เป็นธรรม ซึ่งก็อยู่ที่การออกแบบของรัฐสภา ต้องดูร่างกฎหมายลูกที่ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอมาเข้ามาและที่ประชุมร่วมรัฐสภามาพิจารณาร่วมกันเพื่อให้ได้กฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส.ที่เป็นธรรมที่สุด ไม่เอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง หรือทำให้อีกฝ่ายเสียเปรียบ ซึ่งก็มีเวลาในการเสนอกฎหมายลูกเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาภายใน 180 วัน (6 เดือน) หลังจากวันที่มีประกาศในราชกิจจานุเบกษาแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ โดยที่ประชุมรัฐสภาจะต้องพิจารณากฎหมายเพื่อให้เกิดความชอบธรรมมากที่สุด ประโยชน์ก็จะตกแก่ประชาชน ” นายสมชาย ย้ำ 

 

สมชายชงออกแบบกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส. ต้องเน้นให้เกิดความชอบธรรมมากที่สุด