ย้อนคดีปล้นทอง 3 เดือนมีเพียบ สลด! เยาวชนก่อเหตุเพราะหนี้ออนไลน์
เพียง 3 เดือน เกิดคดีปล้นและวิ่งราวร้านทองถึง 13 คดี เฉลี่ยสัปดาห์ละครั้ง!! แต่ที่น่าสลดใจคือมีเยาวชนทั้งชายหญิงหลงผิดคิดเป็นโจร ด้วยสาเหตุติดพนันและถูกหลอกลวงออนไลน์
มองย้อนกลับไปเพียง 3 เดือน ระหว่างกันยายนถึงพฤศจิกายนยังไม่สิ้นเดือนดี มีคดีปล้นทองและวิ่งราวร้านทองเกิดขึ้นแล้วถึง 13 คดี แบ่งเป็นเดือนกันยายน 2564 จำนวน 5 คดี เดือนตุลาคม 2564 จำนวน 4 คดี และเดือนพฤศจิกายน 2564 จำนวน 4 คดี โดยในจำนวนนี้เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร 3 คดี ชลบุรี 2 คดี ชุมพร 2 คดี และนนทบุรี นครราชสีมา กาฬสินธุ์ ภูเก็ต ขอนแก่น ชัยภูมิ จังหวัดละ 1 คดี
แต่กรณีที่น่าสนใจคือ คดีปล้นร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ชั้น 1 ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ถนนรัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ที่ผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนหญิง อายุเพียง 17 ปี โดยใช้มีดปลายแหลมเป็นอาวุธ เมื่อวันที่ 12 กันยายน และคดีปล้นร้านทองกีรติ ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า จ.ขอนแก่น ที่ตำรวจเพิ่งจับกุมได้เป็นรายล่าสุดในวันนี้ (25 พ.ย.64) หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยคดีนี้พบว่าผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนชายอายุ 17 ปีเช่นกัน และใช้อาวุธปืน ซึ่งเป็นปืนจริง กระสุนจริง
นอกจากความเป็นเยาวชนแล้ว ทั้งสองคดีนี้ยังมีความใกล้เคียงในเรื่องมูลเหตุจูงใจ โดยเยาวชนหญิงก่อเหตุเพราะนำเงินที่ได้จากประกันชีวิตของพ่อ จำนวน 50,000 บาท ไปร่วมลงทุนแชร์ออนไลน์ ซึ่งตอนแรกก็ได้กำไรดี แต่สุดท้ายแล้วก็อย่างที่รู้กันดีว่าธุรกิจแบบนี้จะลงท้ายอย่างไร เมื่อถูกแม่ที่กำลังรักษาตัวเพราะติดโควิดทวงถามเงินก้อนนี้ หาทางออกไม่ได้ ก็ตัดสินใจนั่งรถจากบ้านย่านดอนเมือง ไปก่อเหตุที่ห้างย่านรัตนาธิเบศร์ นนทบุรี
ส่วนคดีที่ขอนแก่น หนุ่มน้อยก่อเหตุเพราะติดหนี้พนันออนไลน์ จึงวางแผนสั่งซื้ออาวุธปืนทางอินเตอร์เน็ต แล้วเดินทางจากบ้านย่านปทุมธานีไปปล้นที่ขอนแก่น เพราะเคยทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ แต่แม้จะหนีกลับมาซ่อนตัวข้ามพื้นที่ สุดท้ายเพียง 5 วันก็จนมุม ด้วยคดีนี้มีการตั้งค่าหัว จึงมีพลเมืองดีช่วยแจ้งเบาะแสจนจับได้ในที่สุด เช่นเดียวกับคดีที่ลาดกระบัง กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 สถาบันชื่อดังย่านดังกล่าว สารภาพว่าทำไปเพราะติดพนันออนไลน์เช่นกัน โดยเป็นหนี้อยู่ 5-6 หมื่นบาท
อีกคดีที่เป็นข่าวฮือฮาเมื่อจับกุมตัวคนร้ายปล้นทองกลางห้างดังเมืองชุมพรได้ เพราะผู้ต้องหาเป็นไวยาวัจกร เป็นผู้ถือบัญชีเบิกจ่ายเงินของวัด แต่นำเงินวัดไปใช้ส่วนตัว เนื่องจากติดพนันออนไลน์อย่างหนัก โกงเงินวัดมาเล่นพนัน พอหาเงินมาคืนไม่ทันก็วางแผนก่อเหตุ สั่งเสื้อไรเดอร์สีเขียวมาพรางตัว แถมลักจักรยานยนต์จากตำบลใกล้เคียงมาก่อเหตุด้วย
แต่ที่น่าตกใจคือคดีที่สิบตำรวจนายหนึ่งปล้นร้านทองที่ห้างในปากช่อง จ.นครราชสีมา ด้วยอาวุธปืนของราชการที่เบิกมาใช้ปฏิบัติหน้าที่ ทั้งยังยิงเจ้าของร้านอาการสาหัสด้วย โดยขณะลงมือใช้เสื้อไรเดอร์สีชมพูอำพราง ส่วนมูลเหตุก็เดิม ๆ คือหนี้สินก้อนโต เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคดีที่ตกเป็นข่าว ไม่นับคดีฉกชิงวิ่งราวรายเล็กรายน้อยรายวันอีกจำนวนมาก
แม้หนี้พนันออนไลน์หรือการถูกหลอกลวงออนไลน์จะไม่ใช่สาเหตุทั้งหมด แต่จำนวนคดีที่มาจากเหตุดังกล่าวก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ และเริ่มมีผู้ก่อเหตุที่เป็นเยาวชน เพราะเป็นกลุ่มคนที่ใช้เวลากับอินเตอร์เน็ตค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการเล่นเกมออนไลน์ ซึ่งเชื่อหรือไม่ว่า คนไทยเล่นเกมบนอินเตอร์เน็ตเป็นอันดับ 1 ของโลก ซึ่งหลายเวบหลายเกมจะมีโฆษณาแฝง
จากปากคำของคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานเป็นแอดมินเวบลงทุนและการพนันออนไลน์ที่กัมพูชา บอกว่าทุกเช้าจะมีการยิงแอดข้ามประเทศมายังสื่อโซเชียลต่าง ๆ รวมทั้งเวบประเภทเพียงอ่านข่าวคลิกดูคลิปก็ได้เงิน เชิญชวนลงทุน หลักร้อยก็ได้ วันเดียวก็กำไร โอนมา 500 โอนกลับ 600 สมัครง่ายไม่ต้องให้ข้อมูลส่วนตัว เมื่อเหยื่อติดกับทดลองลงทุน ก็จะหมุนคืนเงินไปให้ดูน่าเชื่อถือ แต่เมื่อจำนวนเงินพุ่งแตะหลักหมื่นหลักแสนก็จะบล็อกหนี
ปัจจุบันมีคนเข้าไปอยู่ในวงจรนี้เป็นล้าน ๆ คน ถึงเวลาหรือยังที่จะต้องปฏิรูปกระบวนการปราบปรามคดีที่เกี่ยวข้องกับการออนไลน์ ที่ทุกวันนี้มีสารพัดรูปแบบ ไม่ใช่แค่เวบพนันหรือแชร์ลูกโซ่ คำถามคือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามทันหรือไม่ มีการมอนิเตอร์เพื่อสกัดไว้ก่อนหรือเปล่า หรือต้องรอให้มีผู้เสียหายมาแจ้งความ ซึ่งกว่าจะแจ้งความได้ก็ยาก เนื่องจากเกิดเหตุบนโลกออนไลน์ มีการทำธุรกรรมผ่านมือถือ พื้นที่ต่อเนื่องกัน ใครจะเริ่มดำเนินคดี
ขั้นตอนการชดใช้ชดเชยเป็นอย่างไร ร้านทองถูกปล้นได้ของคืนทันที แต่คดีถูกหลอกออนไลน์ต้องขึ้นศาลก่อน กว่าจะสิ้นสุดคดีก็ไม่รู้ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ แต่เงินทองค่าใช้จ่ายของผู้เสียหายต้องนั้นมีทุกวัน รวมทั้งกรณีค่ายมือถือที่เคยรับปากว่าจะบล๊อก SMS ที่แนบลิงก์หลอกลวง ณ วันนี้ก็ยังมีให้เห็นไม่เว้นวัน ทำไมผู้มีอำนาจยังไม่จัดการ แต่ละหน่วยงานกลับปัดกันไปมาหาเจ้าภาพไม่ได้
อาชญากรรมออนไลน์ไม่ใช่ปัญหาใหม่..แต่เป็น..ปัญหาใหญ่ ที่ประชาชนพลเมืองไทยทุกคนกำลังรอรับการคุ้มครองดูแล ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้อย่างชัดเจนว่า “รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไป ตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของ ประชาชนโดยรวม”