อิสราเอลสกัด "โอไมครอน" เข้มสุดในโลก ชาติแรกแบนต่างชาติเข้าประเทศ | คมชัดลึก

 

หลังจากเป็นที่ชัดเจนว่า  โลกกำลังเผชิญกับไวรัสก่อโรคโควิด-19 กลายพันธุ์ที่น่ากังวลตัวที่ 5 โดยองค์การอนามัยโลกเรียกชื่อตามลำดับอักษรกรีกว่า “โอไมครอน”  หลายประเทศได้ออกมาตรการสกัดกั้นไวรัสที่เชื่อว่าระบาดง่ายกว่าเดลตา 5 เท่า  ด้วยการห้ามผู้เดินทางจากแอฟริกาใต้และเพื่อนบ้านในภูมิภาค แต่ไม่มีประเทศไหนงัดมาตรการเข้มข้นแบบอิสราเอล

 

โดยล่าสุด  รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นัฟตาลี เบนเน็ต ประกาศมาตรการห้ามชาวต่างชาติทั้งหมดเข้าประเทศชั่วคราว และไฟเขียว  ชินเบท หน่วยข่าวกรองภายใน กลับมาใช้เทคโนโลยีต่อต้านก่อการร้ายแกะรอยทางโทรศัพท์ สอดส่องการปฏิบัติตามมาตรการแยกกักผู้ที่อาจได้รับเชื้อ ระบบนี้เคยนำมาใช้ในช่วงแรกที่มีการระบาดเมื่อปีที่แล้ว ก่อนศาลสูงตัดสินว่าไม่ชอบธรรม 

 

นอกจากนี้  ชาวอิสราเอลที่มาจากต่างประเทศและฉีดวัคซีนครบโดสหรือเข็มกระตุ้นแล้ว  เดิมต้องตรวจเชื้อเมื่อเดินทางถึงและกักแยกรอผลเป็นลบเท่านั้น แต่ต่อไป ทุกคนจะต้องเข้าสู่กระบวนการกักกัน 3 วัน  ส่วนคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน จะต้องกักตัวอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และพ้นกักตัวเมื่อผลตรวจเป็นลบในวันที่ 7  ส่วนคนที่มาจากประเทศสีแดง จะต้องกักตัวในโรงแรมที่รัฐกำหนด จนกว่าผลตรวจเป็นลบสองครั้ง  

 

มาตรการใหม่  จะมีผลบังคับใช้ในคืนวันอาทิตย์นี้ (28 พ.ย.)  ทำให้อิสราเอลเป็นประเทศแรกในโลกที่ปิดชายแดนไม่รับชาวต่างชาติอย่างสิ้นเชิงเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจากคณะกรรมการชุดหนึ่งที่ตั้งขึ้นมา 

 

 

อิสราเอลพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธฺุ์ฺ โอไมครอน แล้ว 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากมาลาวี กับอีก 7 ราย อยู่ในข่ายต้องสงสัยติดเชื้อ จำนวนนี้ 3 รายไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ จุดความวิตกว่าเชื้ออาจแพร่ในบ้านแล้ว 

 

อาเยเลต ชาเคด รัฐมนตรีมหาดไทยอิสราเอล กล่าวว่า “การทำงานของเราอยู่ข้อสันนิษฐานว่า เชื้อไวรัสกลายพันธุ์ชนิดใหม่อยู่ในเกือบทุกประเทศแล้ว” ขณะเสริมว่า ผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขยืนยันว่า “วัคซีนยังได้ผล แต่เราไม่รู้ว่าได้ผลระดับไหน”  

 

ด้าน นายกรัฐมนตรีเบนเนตต์ กล่าวว่า เพราะกำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน หลักสำคัญคืออิสราเอลต้องระวังและลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด จนกว่าจะมีข้อมูลความรู้เกี่ยวกับเชื้อกลายพันธุ์ชนิดใหม่เพิ่มขึ้น 

 

นับจากพบเชื้อครั้งแรกในแอฟริกาใต้ เวลานี้มีรายงานพบผู้ติดเชื้อยืนยันในหลายประเทศและภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นเยอรมนี สหราชอาณาจักร เบลเยี่ยม ฮ่องกงและเนเธอร์แลนด์  นักระบาดวิทยาเชื่อว่าการปิดกั้นจำกัดการเดินทางใด ๆ ในเวลานี้ อาจสายเกินไปแล้วที่จะสกัดไวรัสกลายพันธุ์ โอไมครอน ลามข้ามแดนทั่วโลก และอาจจะต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะเข้าใจถ่องแท้ถึงการกลายพันธุ์ชนิดใหม่ และวัคซีนที่มีอยู่จะได้ผลแค่ไหน 
 

ที่มา Time of Israel   DW