ข่าว

"โควิดคร่าชีวิตแม่" พ่ออุ้มลูกชายคุยกับรูปถ่ายแม่ที่จากไป

"โควิดคร่าชีวิตแม่" พ่ออุ้มลูกชายคุยกับรูปถ่ายแม่ที่จากไป

30 พ.ย. 2564

พ่อหนูน้อยโพสต์คลิป พร้อมข้อมความ ถ้าหนูได้เห็นหน้าแม่สักครั้งก็คงดีหลัง "โควิดคร่าชีวิตแม่" ชาวโซเชียลแห่ให้กำลังใจกว่า 5 ล้านวิว

กลายเป็นคลิป TikTok ที่ดังในตอนนี้และเป็นคลิปที่บีบหัวใจคนในโซเชียล อย่างมากหลังจากที่พ่อได้อุ้มลูกน้อยวัย 8 เดือน กำลังส่งเสียงพูดคุยอ้อแอ้คุยกับรูปแม่ที่จากไป เพราะติดเชื้อ covid-19 ในขณะที่ลูกชายยังอยู่ในครรภ์เพียง 8 เดือนหมอต้องทำการผ่าคลอดก่อนกำหนดเพื่อยื้อชีวิตลูกไว้ คนโชเชียลแห่ให้กำลังใจยอดวิวพุ่งถึง 5 ล้าน

 

คมชัดลึก ได้พูดคุยกับเจ้าของคลิป TikTok  รายหนึ่งทราบชื่อคือคุณแม็ค  เปิดร้านขายของย่านมีนบุรี มีบ้านอยู่ที่ จ.ปทุมธานี และเป็นผู้โพสต์คลิปดังกล่าวได้ให้ข้อมูลว่าเมื่อวันที่วันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมาได้พาครอบครับไปทำบุญ100วันให้กับภรรยาซื่อเป็นแม่ของน้องกัปตันที่ วัดห้วยลำใย อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์  จากนั้นก็อุ้มน้องกัปตันมาที่รูปของแม่ น้องแสดงท่าทางดีใจพูดคุยอ้อแอ้ตามประสาเด็กๆ ซึ่งก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะคิดถึงภรรยาที่จากไปและได้พาลูกชายญาติมาร่วมทำบุญครบ 100 วันเมื่อสองวันผ่านมาเลยโพสต์คลิปลงใน TikTok  พร้อมกับติดแฮทแท็ก   #ถ้าหนูได้เห็นหน้าแม่สักครั้งก็คงดี #แม่ลูกคุยกัน #แม่น้องกัปตัน  #จากกันแค่กายแต่ใจเรายังอยู่ด้วยกัน #คิดถึงนะ #นางฟ้าของฉัน #แม่น้องกัปตัน  ที่ทำให้เพราะคิดถึงภารรยา  เคยอยู่ด้วยกันมาหลายปีลำบากมาด้วยกันไม่เคยทอดทิ้งกันและอยากบันทึกภาพไว้ให้กับลูกเพราะตั้งแต่ลูกเกิดมาก็ยังไม่เคยเห็นหน้าแม่ ส่วนตัวแม่เองก็ไม่เคยเห็นหน้าลูกเพราะตอนที่ผ่าคลอดหมอได้วางยาสลบจากนั้นก็แยกแม่กับลูกเพราะกลัวจะติดเชื้อ 

 

สำหรับการโพสต์คลิปภาพเพื่อเป็นการบันทึกเรื่องราวในชีวิตดีที่ทำให้กับภรรยาครั้งสุดท้าย หลังจากโพสต์คลิปไปก็มีคนเข้ามาให้กำลังใจครอบครัวเป็นจำนวนมากมีคนเข้าชมให้กำลังใจ 5 ล้านกว่าคน ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ไม่คิดว่าจะมีมากขนาดนี้ 

นายแม็ค สามีผู้เสียชีวิต ได้เปิดเผยกับทีมข่าวคมชัดลึก ถึงอาการของแฟนสาวที่ติดเชื้อ covid มาจากตนเองว่าช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาตนไม่สบายประมาณ 3 วัน ภรรยาซึ่งกำลังท้อง 8 เดือนได้ มาดูแลคอยเช็ดตัวให้ประมาณ 3 วันพอวันที่ 4 แฟนเริ่มมีอาการไข้ และสังเกตเห็นว่าลูกไม่ดิ้นเหมือนคนปกติเลยพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลย่านปทุมธานี ซึ่งหมอก็ให้ตรวจ covid ก่อนถึงจะทำการ ตรวจเด็กได้ ผลออกมาพบว่า แฟนติดติดเชื้อโควิด จึง

 

ทำการรักษา ในวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนตัวสามีได้กลับไปรักษาตัวที่บ้าน ซึ่งเป็นผู้ป่วยสีเขียว มีอาการปวดหัวนิดหน่อย จนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม แฟนเริ่มมีอาการไอ หมอก็ได้ตรวจดูอาการพบว่า  ออกซิเจนในเส้นเลือดลดลง หมอให้ใส่สายออกซิเจน ลักษณะคล้ายหนวดกุ้ง วันที่ 26 กรกฎาคม ตื่นเช้ามาเริ่มไอหนักขึ้น เมื่อเอกซเรย์ จึงรู้ว่าเชื้อลงปอดข้างขวา 1 ข้างหมอจึงเปลี่ยนจากสายมาเป็นแบบครอบ ผ่านคืนวันที่ 27 เริ่มมีอาการหนัก คนไข้เริ่มหายใจเองไม่ได้ พอวันที่ 28 กรกฎาคม หมอได้ย้ายคนไข้เข้าห้อง ICU จากผู้ป่วยปกติ หลังจากนั้นหมอเลยโทรไป ตนซึ่งรักษาตัวอยู่นครสวรรค์ว่า คุณหมอแจ้งว่าต้องทำการผ่าคลอดวันที่ 29 กรกฎาคม ผลการผ่าตัดของน้องออกมาดี  ส่วนตัวคุณแม่เริ่มมีอาการทรุดหนัก หมอเลยให้ลูกแยกกับแม่ และรอการตรวจ covid หลังจากอยู่ห้อง ICU หมอได้ให้ย้ายไปอยู่ที่ห้องพักฟื้น ต่อมาวันที่ 30 คนไข้มีอาการแย่ลงซึ่งหมอได้โทรมาทุกวันว่าอาการทรุดหนักอคล้ายๆกับเคสของนักค่อม  

 

 

เนื่องจากตอนนั้นแฟนกำลังท้องหมอจึงไม่สามารถให้ยาต้านได้ เมื่อน้องคลอกออกมาหมอจึงให้ยา แต่เชื้อเข้าไป ถึงปอดทั้งสองข้างซึ่งหมอก็ให้ยา ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคมทั้งยาต้านและยาฉีด แต่ไม่ก็ไม่ดีขึ้นเพราะเชื้อดื้อยา ทำให้ไม่ตอบสนองกับยาที่หมอให้จนวันที่ 6 สิงหาคม หมอเลยถามว่าถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ จะให้ปั๊มหัวใจช่วยคนป่วยไหม ด้านแฟนหนุ่มจึงถามหมอว่า ถ้าปั๊มแล้วจะมีโอกาสหายไหมครับ หมอบอกว่าไม่มีโอกาสที่จะหาย เพราะหัวใจตอนนี้ เริ่มเต้นช้าลงทุกคนในครอบครัวจึงตัดสินใจกันว่าไม่ต้องปั๊มหัวใจให้แฟนจากไปอย่างสงบสุข

 

จากนั้นหมอเลยถามว่าอยากมาหาคนไข้ไหมผู้เป็นสามีบอกว่าอยากไป เพื่อที่จะพาลูกไปด้วยเพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นหน้าลูกเลยเพราะช่วงที่คลอดหมอวางยาสลบแล้วผ่าตัด หมอจึงได้นัดให้มาในวันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม ทางคุณหมอที่โรงพยาบาลจะพาเข้าไปเยี่ยมคนไข้ แต่ยังไม่ถึงวันจันทร์ วันอาทิตย์หมอโทรมาตอน 04:00 น. ว่าตอนนี้หัวใจคนไข้เต้นช้าลงจากนั้นคุณหมอก็วางสายไป ห่างเพียงแค่ 5 นาทีคุณหมอก็โทรมาอีกครั้ง ว่าหัวใจหยุดเต้นแล้ว  

 

นอกจากนี้ นายแม็ค แฟนผู้เสียชีวิตยังบอกกับ คมชัดลึกว่า ช่วงที่ติดโควิดที่บ้านเป็นกันหมดรวมทั้งพ่อและแม่ก็ติดกันทุกคน  แต่อาการอยู่ในระดับสีเขียว ซึ่งทุกคนก็หายเป็นปกติดี แต่ว่าแฟนของตนกำลังท้องจึงมีอาการรุนแรงมากกว่าคนอื่น  ส่วนลูกชายจะคอยดูแลเขาให้ดีที่สุด เท่าที่พ่อคนนึงจะทำได้ จะทำให้เขาไม่รู้สึกว่าขาดอะไรไปจะดูแลเขาให้ดีที่สุด