ข่าว

สภาป่วน! ปม “ก้าวไกล” ขอเลื่อนญัตติด่วนขบวนเสด็จ ขึ้นมาพิจารณา

สภาป่วน! ปม “ก้าวไกล” ขอเลื่อนญัตติด่วนขบวนเสด็จ ขึ้นมาพิจารณา

01 ธ.ค. 2564

โอละพ่อ! สภาฯ พักการประชุม หลังเริ่มพิจารณาเพียง 9 นาที ปมพรรคก้าวไกลชิงเสนอนำญัตติด่วน เรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงในข้อบกพร่องการกำหนดเส้นทางขบวนเสด็จให้สภาพิจารณา จนต้องนับองค์ประชุมและขานชื่อว่าควรเลื่อนญัตติดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมสภาฯ วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ น.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล เสนอให้เลื่อนญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาข้อเท็จจริงในข้อบกพร่องการกำหนดเส้นทางเสด็จ และการถวายความปลอดภัยของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2563 

 

เสนอโดย พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และคณะเสนอ ซึ่งกำหนดไว้ในการประชุมวันที่ 2 ธันวาคม หลังการลงมติในญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ ซึ่งญัตติดังกล่าวนี้ได้เลื่อนขึ้นมาแทรก ‘ญัตติด่วนขบวนเสด็จ’ ที่มีคิวพิจารณาในวันที่ 25 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา และการเสนอขอเลื่อนญัตติด่วนขบวนเสด็จมาพิจารณานี้ได้มีผู้รับรองถูกต้อง 

 

อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของ ส.ส.ฝั่งรัฐบาล ได้ลุกขึ้นคัดค้านและไม่เห็นด้วย ทำให้ต้องมีการลงมติในการเสนอให้เลื่อนญัตติด่วนดังกล่าว ทำให้นายชวน ขอให้ผู้ควบคุมเสียงของฝั่งรัฐบาลและฝั่งฝ่ายค้านหารือเพื่อให้ได้ข้อตกลงร่วมกัน
 

นายอรรถกร ศิริลัทธธยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ฐานะเลขานุการวิปรัฐบาล ขอให้พักการประชุม 15 นาที เพื่อตกลงร่วมกันและไม่เสียเวลาที่ประชุม ซึ่งนายชวน อนุญาตให้พักประชุม 10 นาที หลังจากที่เริ่มเข้าสู่การประชุมได้เพียง 9 นาที เท่านั้น 

 

อย่างไรก็ดี หลังพักการประชุมแล้วไม่สามารถตกลงร่วมกันได้ ทำให้ต้องใช้การลงมติเพื่อตัดสิน โดยในฝั่ง ของ ส.ส.ก้าวไกล ยืนยันขอให้เวลาอภิปรายเพื่อแสดงความเห็นก่อนการลงมติ โดย น.ส.วรรณวรี  ชี้แจงว่า สภาฯ ต้องร่วมสืบหาข้อเท็จจริงเพื่อให้ความยุติธรรมกับประชาชนที่ถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 111 รวมถึงต้องถอดบทเรียนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น อีกทั้งหากญัตติดังกล่าวไม่ได้รับการพิจารณาจะทำให้ญัตติด่วนอื่น ๆ ที่สำคัญไม่สามาถพิจารณาได้ แม้จะเลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อน จะเท่ากับว่าไม่ให้ความสำคัญกับญัตติดังกล่าว

ขณะที่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะวิปรัฐบาล อภิปรายว่า ขอให้ฝ่ายค้านใช้กลไกของวิป เพื่อหารือร่วมกัน และยอมรับกลไกของข้อบังคับการประชุมสภาฯ ไม่ใช่เสนอเลื่อนโดยไม่บอก หรือใช้กลไกนับองค์ประชุม หรือลงมติเพื่อทำให้ที่ประชุมเสียเวลา ทั้งนี้ขอให้ดำเนินการตามระเบียบวาระ ส่วนประเด็นที่ฝ่ายค้านต้องการควรใช้กลไกของวิปเพื่อทำงานร่วมกัน และเป็นไปตามข้อตกลง

 

ทั้งนี้ ก่อนการลงมติในญัตติที่จะขอเปลี่ยนแปลงระเบียบวาระประชุม นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เสนอญัตติให้เปลี่ยนการลงมติจากเดิมที่ต้องกดบัตรออกเสียง เป็นการลงมติโดยเปิดเผยด้วยการขานชื่อทำให้ที่ประชุมต้องตรวจสอบองค์ประชุมและขอมติในญัตติที่จะเปลี่ยนแปลงการลงมติดังกล่าวก่อน  

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายนิโรธเสนอนั้น ส.ส.ฝั่งรัฐบาล นั่งในห้องประชุมอย่างบางตา สำหรับผลตรวจสอบองค์ประชุม โดยผลการตรวจสอบองค์ประชุม พบว่ามีผู้แสดงตนรวม 269 เสียง และได้ลงมติเห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงการลงมติ ด้วยเสียงข้างมาก 219 เสียง ต่อ 49 เสียง งดออกเสียง 15 เสียง ทำให้ต้องใช้การขานชื่อเพื่อลงมติชี้ขาดในประเด็นการเลื่อนระเบียบวาระหรือไม่ โดยเริ่มขานการลงมติ เมื่อเวลา 11.20 น. และหลังเสร็จสิ้นการขานชื่อพบว่าเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนญัตติด่วนดังกล่าวขึ้นมาพิจารณา โดยที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติไม่เลื่อนญัตติขบวนเสด็จกลับเข้ามาพิจารณาก่อนด้วยจำนวน 246 ต่อ 45 และงดออกเสียง 6 เสียง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าการขานชื่อลงมติ พรรคร่วมรัฐบาลลงมติไม่เห็นด้วย ขณะที่พรรคเพื่อไทยไม่มีการขานชื่อลงมติ ส่วนพรรคก้าวไกลนั้นลงมติเห็นด้วย อย่างไรก็ตาม ภายหลังการขานชื่อเสร็จสิ้นลง พรรคก้าวไกล นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกล ได้มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน แสดงความเสียใจที่ญัตติดังกล่าวไม่ได้ถูกหยิบยกมาพิจารณาในวันนี้ แต่จะเดินหน้าผลักดันเรื่องนี้ต่อไป