"นายกฯ" ยกคดีเสือดำเป็นอุทาหรณ์ ไม่ไปศาลโดนหมายจับ
"นายกรัฐมนตรี" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยกคดีเสือดำเป็นอุทาหรณ์ ไม่ไปศาลก็โดนหมายจับ ส่งชื่อไปทุกด่านแล้ว เหมือนกับทุกคดี
วันที่ 7 ธ.ค.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา "นายกรัฐมนตรี" และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลจังหวัดทองผาภูมิ นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีเสือดำ ที่นายเปรมชัย กรรณสูต กับพวกเป็นจำเลย คดีล่าเสือดำและสัตว์ป่าคุ้มครองในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี วันพรุ่งนี้ (8 ธ.ค.) หลังต่อสู้นาน 3 ปี ว่า เป็นคดีอุทาหรณ์อย่าไปทำ ศาลเรียกไปก็ไป จะมาบอกว่าไม่ไปแล้ว นายกฯจะอย่างไรและตนก็ไม่ใช่เสือดำ แต่คนที่ศาลเรียกแล้วไม่ไป ก็ต้องถูกออกหมายจับก็แค่นั้น อีกทั้งรายชื่อต่าง ๆ ก็ถูกส่งไปชายแดน ทุกด่านตรวจก็ไปจับเอา ซึ่งก็เหมือนกับในทุกคดี
สืบเนื่องจากเมื่อ 29 ก.ค.63 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำที่ 10/2561 (คดีหมายเลขแดง อท.ที่ 13/2562) ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 7 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต เป็นจำเลยที่ 1 และนายยงค์ โดดเครือ จำเลย ที่ 2 ในความผิดฐานร่วมกันให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทําการ ไม่กระทําการ หรือประวิงการกระทําอันมิชอบด้วยหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ประกอบมาตรา 83
คดีนี้เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2562 ศาลชั้นต้น ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มีคำพิพากษาให้จำคุกนายเปรมชัย จำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปี ไม่รอการลงโทษ ส่วนนายยงค์ จำเลยที่ 2 พิพากษายกฟ้อง โดยนายเปรมชัย จำเลยที่ 1 ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งได้รับการปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ด้วยหลักทรัพย์ 200,000 บาท
สำหรับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบนั้น ศาลพิจารณาแล้วเห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตฯ แล้ว นายเปรมชัย ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ 500,000 บาท ขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ต่อมาศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว